IEC Standard คืออะไร? ทำไมอุปกรณ์ไฟฟ้าในโรงงานถึงต้องได้มาตรฐานนี้

สำหรับผู้ประกอบการ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจขนาดกลาง หรืออุตสาหกรรมขนาดใหญ่ที่จำเป็นต้องใช้ระบบไฟฟ้าดำเนินงานอย่างมหาศาล ความปลอดภัย ถือเป็นสิ่งสำคัญสูงสุดเพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างราบรื่น แต่เราจะทราบได้อย่างไรว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าในอุตสาหกรรมธุรกิจที่มีอยู่นั้นตรงตามมาตรฐาน? โดยเฉพาะกับมาตรฐานสากลอย่าง IEC Standard ซึ่งเป็นมาตรฐานความปลอดภัยอุปกรณ์ไฟฟ้า ที่ได้รับการยอมรับไปทั่วโลก

บทความนี้ ณัฐภูมิ วิศวกรรม จะชวนทุกท่านมาทำความเข้าใจกับ IEC Standard ว่าคืออะไร ทำไมอุปกรณ์ไฟฟ้าถึงจำเป็นต้องมีการรับรองมาตรฐานนี้ และจะสามารถตรวจสอบได้อย่างไรบ้างกัน
รู้จัก iec standard คืออะไร ทำไมโรงงานไฟฟ้าควรได้มาตรฐานนี้

มาตรฐาน iec standard เพิ่มความปลอดภัยระบบไฟฟ้าโรงงาน

ทำความรู้จัก “IEC Standard” มาตรฐานความปลอดภัยสากลที่ผู้ประกอบการควรรู้

ก่อนอื่นมาทำความรู้จักกับ IEC Standard กันก่อนว่าคืออะไร มีความสำคัญอย่างไรบ้าง และสามารถบ่งบอกถึงมาตรฐานความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าโรงงานได้อย่างไร

IEC คืออะไร? และมีบทบาทอย่างไรในอุตสาหกรรมไฟฟ้า?

IEC Standard (International Electrotechnical Commission Standard) คือ มาตรฐานที่กำหนดความปลอดภัยของอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยแบ่งเป็นมาตรฐานตามประเภทของอุปกรณ์ ได้แก่

  • มาตรฐาน IEC 60227 : สายไฟฟ้า
  • มาตรฐาน IEC 60050 : อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ ไฟฟ้า
  • มาตรฐาน IEC 60439 : แผงควบคุมไฟฟ้า
  • มาตรฐาน IEC 60061 : หลอดไฟ

นอกจาก IEC Standard จะกำหนดมาตรฐานของอุปกรณ์แล้ว ยังมีมาตรฐานที่เกี่ยวข้องกับการวางระบบไฟฟ้าในอุตสาหกรรมด้วย ดังนี้

  • มาตรฐาน IEC 61439 : การประกอบตู้ควบคุมไฟฟ้า
  • มาตรฐาน IEC 60364 : การติดตั้งระบบไฟฟ้าภายในอาคาร
  • มาตรฐาน IEC 61508 : การทำงานของระบบควบคุมความปลอดภัย
  • มาตรฐาน IEC 60947 : อุปกรณ์สวิตช์ไฟฟ้ากำลัง
  • มาตรฐาน IEC 61850 : การสื่อสารในระบบพลังงานไฟฟ้า

จะเห็นได้ว่า ทุกอุปกรณ์ที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าจะต้องได้รับการรับรองมาตรฐาน IEC Standard ตั้งแต่สายไฟฟ้า และแผงควบคุม เช่นตู้ MDB ที่ทำหน้าที่ควบคุมทั้งระบบไฟฟ้าโดยรวม ไปจนถึงมาตรฐานการติดตั้งระบบไฟฟ้าเลยทีเดียว

IEC Standard ความปลอดภัยที่มากกว่าแค่ตัวเลขบนฉลาก

การที่อุปกรณ์ไฟฟ้าได้รับการรับรองจาก IEC Standard ไม่ได้เป็นเพียงแค่ตัวเลขที่บ่งบอกว่า ‘สินค้า’ ชิ้นนี้ได้รับการรับรองมาตรฐานเท่านั้น แต่ยังบ่งบอกได้ว่าผลิตภัณฑ์นั้น ๆมีกระบวนการออกแบบ ผลิต หรือติดตั้งตามมาตรฐานของ IEC ซึ่งจะเป็นการเสริมสร้างความมั่นใจว่าโรงงานหรือธุรกิจที่ได้รับการรับรองมีความปลอดภัยลดความเสี่ยงการเกิดอันตรายจากอุบัติเหตุทางระบบไฟฟ้าต่าง ๆ เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร หรือปัญหาจากความแตกต่างของอุปกรณ์ไฟฟ้าได้

อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม :ทำความเข้าใจมาตรฐานการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในโรงงานอุตสาหกรรม

3 เหตุผลสำคัญ ที่โรงงานต้องเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่มีการรับรอง IEC Standard

ทราบความหมายของ IEC Standard กันไปแล้ว หลายท่านน่าจะเล็งเห็นแล้วว่ามาตรฐาน IEC สำคัญอย่างไร แต่เพื่อให้เห็นภาพมากขึ้น เราลองมาดู3 เหตุผล ว่า ทำไมถึงควรเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้รับการรับรองจาก IEC Standard ที่มีราคาสูงกว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าทั่วไปกัน

iec standard ช่วยลดความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจร

1. ลดความเสี่ยงของไฟฟ้าลัดวงจรและอัคคีภัย

อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ผ่านมาตรฐาน IEC Standard จะเป็นการการันตีในระดับหนึ่งว่า อุปกรณ์เหล่านี้จะช่วยป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร ซึ่งเป็นสาเหตุหลัก ๆ ของการเกิดอัคคีภัย จากกระบวนการผลิตที่คำนึงถึงความแตกต่างของอุปกรณ์ไฟฟ้าแต่ละชนิด จึงช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดจากความแตกต่างเหล่านั้นได้

เครื่องจักรที่มี iec standard จะทำงานได้มีประสิทธิภาพสูง

2. สร้างความมั่นใจว่าเครื่องจักรทำงานได้เต็มศักยภาพ

เครื่องจักรที่ผ่านมาตรฐาน IEC Standard จะถูกผลิตภายใต้ข้อกำหนดเดียวกันที่ชัดเจน เพื่อให้เป็นไปตามมาตรฐานและได้คุณภาพในระดับเดียวกัน จึงมั่นใจได้ว่าเครื่องจักรที่มีการรับรอง IEC Standard จะใช้งานได้อย่างเต็มศักยภาพ

การใช้อุปกรณ์ที่มี iec standard นั้นถูกกฎหมาย มีความน่าเชื่อถือ

3. ตรงตามข้อกำหนดด้านกฎหมาย สร้างความน่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ

นอกจากการใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า รวมถึงวางระบบไฟฟ้าให้ตรงตาม IEC Standard จะช่วยให้การใช้ระบบไฟฟ้าโรงงานมีความปลอดภัยและถูกกฎหมายแล้ว ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่น่าเชื่อถือให้กับธุรกิจ เพราะลูกค้าจะมองว่าอุตสาหกรรมนี้ให้ความสำคัญกับความปลอดภัยและคุณภาพของอุปกรณ์ จึงเหมือนเป็นการอนุมานได้ว่าหากเลือกเป็นพาร์ตเนอร์กับบริษัทนี้ ก็จะได้รับสินค้าที่มีคุณภาพสูงด้วยเช่นกัน

ทำยังไงให้รู้ได้เลยว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าในโรงงานได้มาตรฐานจริง ในระหว่างการทำงานของผู้ให้บริการ?

ในช่วงกระบวนการจัดหาอุปกรณ์ เครื่องจักร หรือการติดตั้งระบบไฟฟ้า ผู้ให้บริการอาจไม่ได้มีการชี้แจงอย่างละเอียดถึงรายละเอียดข้อมูลของผลิตภัณฑ์ต่าง ๆ วันนี้ ณัฐภูมิ วิศวกรรม จึงมีเทคนิคเล็ก ๆ น้อย ๆ มาแบ่งปัน เพื่อให้คุณสามารถตรวจสอบมาตรฐานของอุปรณ์ได้ตั้งแต่ขั้นตอนแรก ๆ ของการดำเนินการ

1. ตรวจสอบเอกสารและมาตรฐานรับรอง

  • ขอใบรับรองมาตรฐานผลิตภัณฑ์: สอบถามผู้ขายหรือผู้ให้บริการเพื่อขอเอกสารยืนยันว่าอุปกรณ์ผ่านมาตรฐานอุตสาหกรรม (มอก.) หรือมาตรฐานสากลอื่น ๆ ที่เป็นที่ยอมรับ เช่น IEC (International Electrotechnical Commission), NEMA (National Electrical Manufacturers Association) หรือ UL (Underwriters Laboratories)
  • ขอดูเอกสารข้อมูลทางเทคนิค (Technical Datasheet): เอกสารนี้จะระบุคุณสมบัติของอุปกรณ์อย่างละเอียด เช่น พิกัดแรงดัน, กระแส, อุณหภูมิทำงาน, และระดับการป้องกัน (IP Rating) คุณสามารถนำข้อมูลนี้ไปเปรียบเทียบกับความต้องการของโรงงานและมาตรฐานที่ควรจะเป็น
  • ตรวจสอบใบรับประกันสินค้า: สินค้าที่ได้มาตรฐานมักมาพร้อมกับการรับประกันที่ชัดเจนและมีระยะเวลานานพอสมควร ซึ่งแสดงถึงความมั่นใจของผู้ผลิตในคุณภาพสินค้า

2. ตรวจสอบรายละเอียดบนตัวผลิตภัณฑ์

อุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานทุกชิ้น ต้องมีป้ายข้อมูล (Nameplate) ติดอยู่ที่ตัวเครื่องอย่างชัดเจนและถาวร ซึ่งจะระบุข้อมูลสำคัญ เช่น:

  • ชื่อผู้ผลิตและรุ่น
  • แรงดันไฟฟ้า (Voltage)
  • กระแสไฟฟ้า (Current)
  • กำลังไฟฟ้า (Power/Wattage)
  • มาตรฐานที่ได้รับการรับรอง (เช่น สัญลักษณ์ มอก. หรือ IEC)

หากป้ายนี้ไม่มีอยู่, ข้อมูลไม่ครบถ้วน, หรือดูเหมือนถูกทำขึ้นมาอย่างง่าย ๆ อาจเป็นสัญญาณว่าอุปกรณ์นั้นไม่ได้มาตรฐาน

3. ตรวจสอบประวัติและผลงานของผู้ให้บริการ/ผู้ขาย

  • เลือกผู้ให้บริการที่มีความน่าเชื่อถือ: ค้นหาข้อมูลหรือรีวิวของบริษัทผู้ติดตั้งหรือผู้จำหน่าย ตรวจสอบว่ามีประสบการณ์ในงานอุตสาหกรรมและมีผลงานอ้างอิงที่น่าเชื่อถือหรือไม่
  • ขอคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ: หากไม่มั่นใจ ควรปรึกษาวิศวกรไฟฟ้าหรือผู้เชี่ยวชาญอิสระเพื่อช่วยตรวจสอบคุณสมบัติของอุปกรณ์และแผนการติดตั้งของผู้ให้บริการ

4. ตรวจสอบระหว่างการติดตั้งและการทดสอบระบบ

  • สังเกตการณ์ติดตั้ง: กระบวนการติดตั้งที่ถูกต้องและเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญ ผู้ติดตั้งควรมีความเชี่ยวชาญและทำงานอย่างเรียบร้อย
  • การทดสอบก่อนใช้งานจริง (Commissioning Test): หลังจากติดตั้งเสร็จสิ้น ผู้ให้บริการที่ดีควรมีการทดสอบระบบอย่างละเอียดต่อหน้าคุณ เช่น การวัดค่าความเป็นฉนวน, การทดสอบการทำงานของระบบป้องกัน และการวัดค่าพารามิเตอร์ทางไฟฟ้าต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าทุกอย่างทำงานได้ถูกต้องและปลอดภัยก่อนส่งมอบงาน

ติดตั้งระบบไฟฟ้าได้มาตรฐาน iec standard โดย ณัฐภูมิ วิศวกรรม

ติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ได้มาตรฐาน IEC กับ ณัฐภูมิ วิศวกรรม

หากคุณต้องการติดตั้ง วางระบบไฟฟ้าในโรงงานหรืออุตสาหกรรมธุรกิจต่าง ๆ การเลือกผู้ให้บริการด้านระบบไฟฟ้าก็ถือเป็นปัจจัยที่ควรให้ความสำคัญ เพราะผู้ให้บริการที่ดีจะต้องใส่ใจ พร้อมให้คำแนะนำและข้อมูลในการติดตั้งระบบไฟฟ้ากับลูกค้าอย่างละเอียด เพื่อให้ลูกค้าทราบว่าอุปกรณ์ที่ใช้มีความปลอดภัยมากน้อยอย่างไร

ณัฐภูมิ วิศวกรรมเป็นผู้ให้บริการด้านระบบไฟฟ้าแบบครบวงจร ทุกกระบวนการของเราผ่านมาตรฐาน IEC Standard ไม่ว่าจะเป็นการเลือกใช้อุปกรณ์ไฟฟ้า มาตรฐานการติดตั้ง รวมถึงดำเนินการโดยทีมช่างวิศวกรผู้มีความเชี่ยวชาญ มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพวิศวกรรมอย่างถูกต้อง ให้บริการทั้งงานระบบไฟฟ้าแรงสูง-แรงต่ำ รวมถึงมีบริการตรวจสอบ ซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้าประจำปี ให้คุณมั่นใจได้ว่าเลือกใช้บริการกับเรา จะได้รับงานคุณภาพและปลอดภัยในทุกจุด

อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม :ทำไมต้องตรวจสอบระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นประจำทุกปี

สร้างความยั่งยืนปลอดภัยในโรงงาน ด้วย iec standard

การลงทุนในอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน IEC Standard คือการลงทุนที่ยั่งยืน

อ่านมาถึงตรงนี้แล้ว คาดว่าหลาย ๆ ท่านน่าจะเข้าใจถึงความสำคัญของ IEC Standard ที่ช่วยรับรองความปลอดภัยในระบบไฟฟ้า ซึ่งไม่เพียงแค่รับรองอุปกรณ์เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงมาตรฐานการติดตั้ง การวางระบบไฟฟ้าต่าง ๆ ซึ่งควรทำโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ และมีความน่าเชื่อถือ เพื่อให้มั่นใจได้ว่าการติดตั้งและอุปกรณ์ไฟฟ้าต่าง ๆ จะเป็นไปตามมาตรฐาน IEC Standard จริง ๆ

ณัฐภูมิ วิศวกรรม เราให้ความสำคัญกับระบบไฟฟ้าโรงงานที่ได้มาตรฐาน ด้วยบริการรับติดตั้งระบบไฟฟ้าโรงงานแบบครบวงจรโดยทีมช่างคุณภาพ และบริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าเชิงป้องกัน (PM) ให้อุตสาหกรรมและธุรกิจของคุณดำเนินไปอย่างมั่นคง ปลอดภัย และมีเสถียรภาพ

ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ติดต่อเรา

หรือโทร 098-291-4911⁣ และแอดไลน์@npeng

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมาตรฐาน IEC Standard

ไม่ใช่มาตรฐานเดียวกัน ถึงแม้ว่าทั้งสององค์กรจะทำงานร่วมกันในการกำหนดมาตรฐานทางระบบไฟฟ้าต่าง ๆ แต่IEC (International Electrotechnical Commission) เป็นมาตรฐานที่เน้นด้านไฟฟ้า อิเล็กทรอนิกส์ และเทคโนโลยี โดยเฉพาะ ในขณะที่ISO (International Organization for Standardization) เป็นองค์กรที่ครอบคลุมมาตรฐานในด้านอื่น ๆ ด้วย เช่น ระบบการจัดการคุณภาพ (ISO 9001) หรือระบบการจัดการสิ่งแวดล้อม (ISO 14001)

มีผลแต่ประเทศไทยนำมาตรฐาน IEC มาปรับใช้เป็นมาตรฐานผลิตภัณฑ์อุตสาหกรรม (มอก.) ซึ่งเป็นมาตรฐานบังคับที่ผู้ผลิตและผู้นำเข้าอุปกรณ์ไฟฟ้าต้องปฏิบัติตาม ดังนั้น การเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน IEC จึงเท่ากับการเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้รับการรับรองความปลอดภัยตามกฎหมายในประเทศไทยด้วยเช่นกัน

การใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน IEC Standard อาจก่อให้เกิดความเสี่ยงดังต่อไปนี้ได้

  • อุปกรณ์อาจเกิดความร้อนสูงจนเกิดเพลิงไหม้ หรือเกิดไฟฟ้าลัดวงจรได้ง่าย
  • อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐานทำงานได้ไม่เสถียร ส่งผลต่อระบบไฟฟ้าในโรงงานโดยรวม
  • อุปกรณ์ไฟฟ้าอาจชำรุดง่าย ทำให้ต้องเสียค่าซ่อมบำรุงหรือเปลี่ยนอุปกรณ์บ่อยครั้ง ซึ่งไม่คุ้มค่าในระยะยาว

การลงทุนในอุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน IEC อาจมีต้นทุนสูงกว่าอุปกรณ์ทั่วไปแต่คุ้มค่ากว่ามากในระยะยาว เพราะอุปกรณ์เหล่านี้ถูกออกแบบมาให้มีความทนทาน ปลอดภัย และมีประสิทธิภาพสูง ช่วยลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุ ลดค่าใช้จ่ายในการซ่อมบำรุง และยังช่วยให้การดำเนินการในโรงงานเป็นไปอย่างราบรื่นและยั่งยืน

Share:
Facebook
WhatsApp
Email
Picture of Nutthaphume Engineering
Nutthaphume Engineering

ให้บริการอย่างครบวงจร ให้คำปรึกษา ออกแบบ
ติดตั้ง ตรวจสอบ และบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแรงสูง/แรงต่ำ ระบบโซลาร์เซลล์ ระบบเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger)

เลือกอ่าน

Nutthaphume Engineering ให้บริการอย่างครบวงจร

ให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง ตรวจสอบ และบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแรงสูง/แรงต่ำ ระบบโซลาร์เซลล์ ระบบเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger)