อินเวอร์เตอร์คืออะไร? เจาะลึกหลักการทำงานและบทบาทสำคัญในภาคอุตสาหกรรม

ในยุคที่พลังงานไฟฟ้ากลายเป็นหัวใจหลักของทุกอุตสาหกรรม อินเวอร์เตอร์ (Inverter) มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในระบบไฟฟ้ากำลัง ไม่ว่าจะเป็นการการจัดการพลังงานในระบบ Solar Cell ไปจนถึงการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ไฟฟ้าในอาคารขนาดใหญ่ อินเวอร์เตอร์เป็นหนึ่งในอุปกรณ์หลักที่ช่วยให้การจ่ายพลังงานไฟฟ้ามีเสถียรภาพ ประหยัด และยืดหยุ่นยิ่งขึ้น

บทความนี้ขอพาทุกท่านไปรู้จักอินเวอร์เตอร์ให้มากขึ้น เจาะลึกประเภท หน้าที่ หลักการทำงาน บทบาทและความสำคัญในภาคอุตสาหกรรมทั้งในระบบไฟฟ้า, Solar Cell, และ EV Charger เพื่อช่วยให้เลือกใช้งานอินเวอร์เตอร์อย่างเหมาะสมในบริบทต่าง ๆ ของงานวิศวกรรมไฟฟ้า
อินเวอร์เตอร์ หรือ inverter คืออุปกรณ์ทางไฟฟ้า ทำหน้าที่แปลงพลังงานไฟฟ้ากระแสตรงให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้ากระแสสลับ

อินเวอร์เตอร์คืออะไร?

อินเวอร์เตอร์ (Inverter) คืออุปกรณ์ทางไฟฟ้าที่ทำหน้าที่แปลงพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ให้กลายเป็นพลังงานไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ซึ่งเป็นรูปแบบไฟฟ้าที่ใช้กันทั่วไปในระบบไฟฟ้าและอุปกรณ์ไฟฟ้าภายในบ้าน โรงงาน หรือระบบโครงข่ายไฟฟ้า

นอกจากนี้ยังนิยมใช้ในระบบพลังงานทดแทน เช่น Solar Cell เพื่อแปลงไฟจากแผงโซลาร์เซลล์ที่เป็นไฟฟ้ากระแสตรงให้กลายเป็นไฟฟ้ากระแสสลับด้วยเช่นเดียวกัน

อินเวอร์เตอร์บางประเภทยังมีความสามารถในการควบคุมความถี่และแรงดันของไฟฟ้า ซึ่งมีบทบาทอย่างมากในการควบคุมมอเตอร์และโหลดต่าง ๆ ในระบบอัตโนมัติอีกด้วย

หลักการทำงานของอินเวอร์เตอร์

การทำงานของอินเวอร์เตอร์แบ่งเป็น 3 ส่วน converter circuit, inverter circuit, control circuit

การทำงานของอินเวอร์เตอร์สามารถแบ่งออกเป็น 3 ส่วนสำคัญ ได้แก่ วงจรคอนเวอร์เตอร์ (Converter Circuit), วงจรอินเวอร์เตอร์ (Inverter Circuit) และวงจรควบคุม (Control Circuit) ซึ่งแต่ละส่วนมีหน้าที่เฉพาะในการแปลงและควบคุมพลังงานไฟฟ้า

  • วงจรคอนเวอร์เตอร์ (Converter Circuit)

    เป็นขั้นตอนแรกของกระบวนการที่ทำหน้าที่แปลงกระแสไฟฟ้าสลับ (AC) จากแหล่งจ่ายไฟหลักให้กลายเป็นกระแสตรง (DC) เพื่อป้อนเข้าสู่วงจรอินเวอร์เตอร์ โดยทั่วไปจะใช้วงจรเรียงกระแส (Rectifier) ร่วมกับวงจรกรอง (Filter) เพื่อปรับปรุงคุณภาพของไฟฟ้ากระแสตรงให้เรียบและนิ่งมากที่สุดก่อนส่งต่อ

  • วงจรอินเวอร์เตอร์ (Inverter Circuit)

    เป็นหัวใจหลักของอินเวอร์เตอร์ที่ทำหน้าที่แปลงกระแสตรง (DC) ให้กลับเป็นกระแสสลับ (AC) อีกครั้ง แต่เป็น AC ที่มีความถี่และแรงดันที่สามารถควบคุมได้ตามต้องการ โดยใช้ชุดของสวิตช์อิเล็กทรอนิกส์ทำงานแบบเปิด-ปิดตามสัญญาณควบคุม เพื่อสร้างสัญญาณ AC ที่มีรูปคลื่นใกล้เคียงกับคลื่นไซน์ (Sine Wave) ที่ราบเรียบและเสถียร

  • วงจรควบคุม (Control Circuit)

    เป็นสมองของระบบที่ทำหน้าที่ควบคุมการทำงานของวงจรอินเวอร์เตอร์ โดยการส่งสัญญาณควบคุมไปยังสวิตช์อิเล็กทรอนิกส์ให้เปิด-ปิดในจังหวะที่แม่นยำ เพื่อสร้างความถี่และแรงดันที่เหมาะสมกับโหลดที่เชื่อมต่ออยู่ ซึ่งวงจรควบคุมมักทำงานร่วมกับเซนเซอร์และวงจรป้อนกลับ (Feedback) เพื่อปรับค่าการทำงานให้คงที่และมีประสิทธิภาพสูงสุดตลอดเวลา


อ่านบทความที่น่าสนใจ:ระบบไฟฟ้าสำหรับธุรกิจยุคใหม่ วางแผนยังไงให้รองรับการเติบโตใน 3 ปี

ชนิดของอินเวอร์เตอร์

อินเวอร์เตอร์แบ่งได้หลายประเภท เช่น รูปแบบคลื่นไฟฟ้าขาออก หรือการใช้งานในระบบต่าง ๆ

อินเวอร์เตอร์สามารถแบ่งออกได้หลายชนิด ขึ้นอยู่กับเกณฑ์การแบ่ง เช่น รูปแบบคลื่นไฟฟ้าขาออก หรือการใช้งานในระบบต่าง ๆ

แบ่งตามรูปแบบคลื่นไฟฟ้าขาออก (Output Waveform)

  • อินเวอร์เตอร์คลื่นสี่เหลี่ยม (Square Wave Inverter)

    เป็นอินเวอร์เตอร์ประเภทพื้นฐานที่สร้างกระแสไฟฟ้าออกมาในรูปของคลื่นสี่เหลี่ยม ซึ่งมีลักษณะการสลับขั้วแรงดันอย่างรวดเร็ว ระดับแรงดันเปลี่ยนแปลงทันทีโดยไม่มีความโค้งเหมือนคลื่นไซน์ อินเวอร์เตอร์ประเภทนี้มีโครงสร้างเรียบง่าย ราคาถูก เหมาะกับอุปกรณ์ไฟฟ้าพื้นฐานที่ไม่ไวต่อรูปคลื่น เช่น หลอดไฟแบบไส้ หรืออุปกรณ์ให้ความร้อน อย่างไรก็ตาม ไม่เหมาะกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์หรือมอเตอร์ เนื่องจากคลื่นไฟฟ้าไม่เรียบ อาจทำให้เครื่องเสียหายได้

  • อินเวอร์เตอร์คลื่นไซน์ดัดแปลง (Modified Sine Wave Inverter)

    เป็นอินเวอร์เตอร์ที่พัฒนาขึ้นจากแบบคลื่นสี่เหลี่ยม โดยจะสร้างรูปคลื่นที่มีลักษณะเป็นขั้นบันได (Step Approximation) ซึ่งใกล้เคียงกับคลื่นไซน์ธรรมชาติมากขึ้น อินเวอร์เตอร์ชนิดนี้สามารถใช้งานกับเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไปได้ในระดับหนึ่ง เช่น ทีวี พัดลม หรือคอมพิวเตอร์ แต่ก็อาจทำให้เกิดเสียงรบกวน ความร้อน หรือการทำงานที่ไม่เสถียรในบางอุปกรณ์ที่ต้องการกระแสไฟคุณภาพสูง

  • อินเวอร์เตอร์คลื่นไซน์บริสุทธิ์ (Pure Sine Wave Inverter)

    เป็นอินเวอร์เตอร์คุณภาพสูงที่ผลิตกระแสไฟฟ้าออกมาในรูปคลื่นไซน์ที่เรียบและเสถียร เหมือนกับไฟฟ้าจากการไฟฟ้าทั่วไป ทำให้อุปกรณ์ไฟฟ้าทุกชนิดทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยเฉพาะเครื่องใช้ไฟฟ้าประเภทมอเตอร์ เครื่องปรับอากาศ เครื่องเสียง เครื่องมือแพทย์ หรืออุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่มีความละเอียดสูง แม้ราคาจะสูงกว่าแบบอื่น แต่ก็คุ้มค่าเมื่อพิจารณาจากความปลอดภัยและอายุการใช้งานของเครื่องมือที่เชื่อมต่อกับระบบ

แบ่งตามการใช้งานในระบบโซลาร์เซลล์

อินเวอร์เตอร์ในระบบโซล่าเซลล์ 3 ประเภท string inverter, micro inverter, hybrid inverter

อินเวอร์เตอร์ในระบบพลังงานแสงอาทิตย์และระบบไฟฟ้ากำลังสามารถจำแนกตามการออกแบบและการติดตั้งเป็น 3 ประเภทหลัก ๆ ได้แก่ String Inverter, Micro Inverter และ Hybrid Inverter ซึ่งแต่ละประเภทมีข้อดีและข้อจำกัดแตกต่างกันตามลักษณะการใช้งาน ดังนี้

1. String Inverter

เป็นอินเวอร์เตอร์ที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในระบบโซลาร์เซลล์สำหรับบ้านและโรงงาน ทำหน้าที่รับไฟฟ้ากระแสตรง (DC) จากแผงโซลาร์เซลล์ที่ต่อเป็นชุด (เรียกว่า String) แล้วแปลงเป็นไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) เพื่อใช้งานหรือส่งเข้าสู่ระบบ

ข้อดี
  • ค่าใช้จ่ายต่ำกว่าประเภทอื่นเมื่อเทียบต่อขนาดของระบบ
  • การดูแลรักษาและติดตั้งง่าย เนื่องจากมีอินเวอร์เตอร์เพียงไม่กี่ตัวในระบบ
  • เหมาะกับระบบที่แผงโซลาร์ได้รับแสงแดดสม่ำเสมอและไม่มีเงาบัง
ข้อจำกัด
  • ประสิทธิภาพของทั้ง String จะขึ้นอยู่กับแผงที่มีประสิทธิภาพต่ำที่สุด (เช่น ถ้ามีเงาบังบางแผง จะส่งผลต่อทั้งชุด)
  • ไม่สามารถตรวจสอบหรือควบคุมประสิทธิภาพของแผงแต่ละแผงได้
  • ไม่เหมาะกับพื้นที่ติดตั้งที่มีเงาบังบางส่วนหรือแผงหันคนละทิศทาง

2. Micro Inverter

คืออินเวอร์เตอร์ขนาดเล็กที่ติดตั้งแยกสำหรับแต่ละแผงโซลาร์เซลล์ ทำหน้าที่แปลงไฟจาก DC เป็น AC ณ จุดต้นทางของแต่ละแผง จึงสามารถควบคุมและเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตไฟฟ้าแต่ละแผงได้อย่างอิสระ

ข้อดี
  • เพิ่มประสิทธิภาพของระบบโดยรวม โดยไม่ได้รับผลกระทบจากเงาบังเฉพาะจุด
  • สามารถมอนิเตอร์การทำงานของแต่ละแผงได้แบบเรียลไทม์
  • ติดตั้งยืดหยุ่น เหมาะกับหลังคาที่มีหลายทิศทางหรือเงาบังบางจุด
ข้อจำกัด
  • ต้นทุนสูงกว่าระบบ String Inverter
  • หากมีปัญหา ต้องปีนขึ้นหลังคาเพื่อซ่อมหรือเปลี่ยนแต่ละตัว ซึ่งอาจไม่สะดวก
  • ระบบมีความซับซ้อนและต้องการความชำนาญในการออกแบบและติดตั้ง

3. Hybrid Inverter

เป็นอินเวอร์เตอร์แบบผสมที่สามารถจัดการกับแหล่งพลังงานได้หลายรูปแบบ ทั้งจากแผงโซลาร์เซลล์, แบตเตอรี่สำรอง และไฟจากการไฟฟ้า ช่วยให้ผู้ใช้งานสามารถควบคุมและจัดเก็บพลังงานได้อย่างยืดหยุ่น

ข้อดี
  • รองรับการติดตั้งแบตเตอรี่ ทำให้สามารถเก็บพลังงานไว้ใช้ในช่วงเวลากลางคืนหรือไฟดับ
  • ช่วยเพิ่มความมั่นคงของระบบไฟฟ้า และลดค่าไฟในระยะยาว
  • บางรุ่นสามารถทำงานในระบบออฟกริด (Off-grid) หรือไฮบริดได้ในตัว
ข้อจำกัด
  • ราคาสูงกว่าอินเวอร์เตอร์ทั่วไป
  • ระบบมีความซับซ้อน ต้องออกแบบอย่างแม่นยำและใช้ช่างผู้เชี่ยวชาญในการติดตั้ง
  • ต้องพิจารณาเลือกแบตเตอรี่ให้เข้ากับระบบเพื่อให้ได้ประสิทธิภาพสูงสุด

อ่านบทความที่น่าสนใจ:เลือกอินเวอร์เตอร์โซล่าเซลล์ (Inverter Solar Cell) สำหรับโรงงาน เลือกให้ถูก คุ้มค่า ยืดอายุระบบได้ยาวนาน

บทบาทของอินเวอร์เตอร์ในภาคอุตสาหกรรม

อินเวอร์เตอร์ทำหน้าที่ควบคุม จัดการ และแปลงพลังงานไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งาน

อินเวอร์เตอร์มีบทบาทสำคัญอย่างยิ่งในภาคอุตสาหกรรมหลากหลายระบบ โดยทำหน้าที่เป็นหัวใจในการควบคุม จัดการ และแปลงพลังงานไฟฟ้าให้เหมาะสมกับการใช้งาน ซึ่งช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ ลดต้นทุน และเพิ่มความน่าเชื่อถือของระบบในระดับโรงงาน

บทบาทในระบบไฟฟ้าโรงงานอุตสาหกรรม

ในภาคอุตสาหกรรม อินเวอร์เตอร์ที่เรียกว่า Variable Frequency Drive (VFD) หรือ Variable Speed Drive (VSD) มีบทบาทหลักในการควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC Motor) ซึ่งเป็นอุปกรณ์ที่ใช้พลังงานมากที่สุดในโรงงาน

  • การประหยัดพลังงาน

    มอเตอร์ทั่วไปมักทำงานที่ความเร็วเต็มพิกัดตลอดเวลาแม้ว่าจะไม่จำเป็น อินเวอร์เตอร์ VFD สามารถปรับความถี่และแรงดันของกระแสไฟฟ้าที่จ่ายให้มอเตอร์ได้ ทำให้ควบคุมความเร็วรอบตามความต้องการของโหลดได้อย่างแม่นยำ ส่งผลให้ใช้พลังงานเท่าที่จำเป็น ลดการสูญเสีย และช่วยประหยัดค่าไฟอย่างมีนัยสำคัญ

  • ควบคุมกระบวนการผลิต

    อินเวอร์เตอร์ช่วยควบคุมความเร็วของปั๊ม พัดลม สายพานลำเลียง และเครื่องจักรต่าง ๆ ได้อย่างละเอียดแม่นยำ ทำให้กระบวนการผลิตมีความเสถียร ลดความคลาดเคลื่อน และเพิ่มประสิทธิภาพโดยรวม

  • ลดการสึกหรอของอุปกรณ์

    การสตาร์ทและหยุดมอเตอร์แบบกะทันหันทำให้เกิดกระแสและแรงบิดกระชาก ส่งผลให้มอเตอร์และอุปกรณ์ที่เชื่อมต่อเกิดการสึกหรอเร็วขึ้น อินเวอร์เตอร์ช่วยให้การเริ่มและหยุดทำงานของมอเตอร์เป็นไปอย่างนุ่มนวล (Soft Start/Stop) ช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์

  • เพิ่มคุณภาพของผลิตภัณฑ์

    การควบคุมความเร็วอย่างแม่นยำช่วยให้การผลิตเป็นไปอย่างสม่ำเสมอ ลดของเสีย และเพิ่มคุณภาพของสินค้าได้อย่างต่อเนื่อง

บทบาทในระบบโซลาร์เซลล์

ในระบบพลังงานแสงอาทิตย์สำหรับโรงงาน อินเวอร์เตอร์ทำหน้าที่เป็นศูนย์กลางในการจัดการและแปลงพลังงานจากแสงอาทิตย์ให้สามารถใช้งานจริงในระบบไฟฟ้าโรงงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ

  • แปลงไฟฟ้า DC เป็น AC

    แผงโซลาร์เซลล์จะผลิตไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ขณะที่เครื่องจักรในโรงงานใช้ไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) อินเวอร์เตอร์จึงทำหน้าที่แปลง DC ให้เป็น AC ที่มีคุณภาพตรงตามมาตรฐานแรงดันและความถี่ของระบบไฟหลัก

  • การจัดการพลังงาน (MPPT)

    อินเวอร์เตอร์สมัยใหม่มาพร้อมฟังก์ชัน Maximum Power Point Tracking (MPPT) ที่ช่วยให้ระบบดึงพลังงานจากแผงโซลาร์ได้สูงสุดในทุกช่วงเวลา แม้ในสภาวะที่แสงแดดเปลี่ยนแปลง

  • การเชื่อมต่อกับกริด (Grid-Tied Inverter)

    ในระบบโซลาร์แบบ On-Grid อินเวอร์เตอร์จะซิงโครไนซ์แรงดันและความถี่ให้ตรงกับระบบไฟฟ้าของการไฟฟ้า เพื่อสามารถส่งพลังงานส่วนเกินกลับเข้าสู่โครงข่ายไฟฟ้าได้

  • ระบบสำรองไฟ (Hybrid Inverter)

    สำหรับโรงงานที่ต้องการความต่อเนื่องของพลังงาน อินเวอร์เตอร์แบบ Hybrid สามารถชาร์จไฟเข้าแบตเตอรี่จากโซลาร์เซลล์ และจ่ายไฟจากแบตเตอรี่เมื่อไฟฟ้าหลักขัดข้องหรือในช่วงที่ไฟฟ้าจากโซลาร์เซลล์ไม่เพียงพอ

บทบาทในระบบ EV Charger

อินเวอร์เตอร์ในระบบ ev charger แปลงและควบคุมกระแสไฟให้เหมาะสมกับการชาร์จ

อินเวอร์เตอร์ในระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) มีหน้าที่หลักในการแปลงและควบคุมกระแสไฟให้เหมาะสมกับการชาร์จอย่างมีประสิทธิภาพ

  • แปลง AC เป็น DC สำหรับการชาร์จเร็ว

    ไฟฟ้าจากโครงข่ายเป็น AC ขณะที่แบตเตอรี่ของรถยนต์ไฟฟ้าต้องใช้ DC

    อินเวอร์เตอร์ใน DC Fast Charger จะทำหน้าที่แปลงไฟ AC เป็น DC แรงดันสูงเพื่อส่งเข้าสู่แบตเตอรี่โดยตรง ช่วยลดเวลาในการชาร์จ

  • การจัดการพลังงานและการสื่อสาร

    อินเวอร์เตอร์ในระบบชาร์จสามารถทำงานร่วมกับระบบบริหารพลังงานในโรงงาน เพื่อควบคุมโหลดให้เหมาะสม ไม่ให้กระทบต่อการจ่ายไฟหลัก และสามารถสื่อสารข้อมูลการชาร์จแบบเรียลไทม์กับระบบจัดการยานพาหนะ

  • การใช้พลังงานหมุนเวียนในการชาร์จ

    หากโรงงานติดตั้งโซลาร์เซลล์ อินเวอร์เตอร์จะทำหน้าที่แปลงพลังงาน DC จากแผงโซลาร์ให้เป็น DC หรือ AC ตามชนิดของ EV Charger เพื่อให้สามารถชาร์จรถยนต์ด้วยพลังงานสะอาดได้โดยตรง

  • การจ่ายไฟสองทาง (Vehicle-to-Grid : V2G)

    อินเวอร์เตอร์รุ่นใหม่เริ่มรองรับฟังก์ชันการจ่ายพลังงานกลับจากรถยนต์เข้าสู่ระบบไฟฟ้าของโรงงาน ช่วยลดค่าใช้จ่ายในช่วงที่ความต้องการไฟฟ้าสูง หรือในเวลาที่ค่าไฟแพง

อ่านบทความที่น่าสนใจ:ติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger) ที่บ้าน ราคาเท่าไหร่ ต้องทำยังไงบ้าง?

อินเวอร์เตอร์ หัวใจสำคัญของระบบไฟฟ้าที่ทุกอุตสาหกรรมไม่ควรมองข้าม

อินเวอร์เตอร์เป็นอุปกรณ์ที่มีบทบาทสำคัญในระบบไฟฟ้าโดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นการควบคุมมอเตอร์ไฟฟ้าในสายการผลิต การแปลงพลังงานจากระบบโซลาร์เซลล์ หรือการจัดการพลังงานในสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า

อินเวอร์เตอร์ช่วยให้การใช้พลังงานเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพ ประหยัด และยืดหยุ่นต่อความต้องการในแต่ละช่วงเวลา อีกทั้งยังมีหลากหลายประเภทให้เลือกใช้งานซึ่งตอบโจทย์การใช้งานที่แตกต่างกันได้อย่างครอบคลุม ถือเป็นหัวใจของระบบไฟฟ้าที่ช่วยเพิ่มขีดความสามารถของโรงงานและธุรกิจอย่างแท้จริง

หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้าเพื่อวางระบบอินเวอร์เตอร์อย่างมืออาชีพณัฐภูมิ วิศวกรรม พร้อมให้บริการแบบครบวงจร ทั้งการให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง ตรวจสอบ และบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแรงสูง-แรงต่ำ รวมถึงระบบโซลาร์เซลล์และEV Charger โดยทีมงานที่มีประสบการณ์และความเชี่ยวชาญเฉพาะด้าน พร้อมด้วยเครื่องมือที่ได้มาตรฐานสากล คุณจึงมั่นใจได้ว่าจะได้รับบริการที่มีประสิทธิภาพสูงสุด และตอบโจทย์ความต้องการของธุรกิจในทุกมิติอย่างแท้จริง

ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ติดต่อเรา

หรือโทร 098-291-4911⁣ และแอดไลน์@npeng

คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับอินเวอร์เตอร์

อินเวอร์เตอร์ทำหน้าที่แปลงไฟฟ้ากระแสตรง (DC) เป็นกระแสสลับ (AC) เพื่อจ่ายไฟให้โหลด ส่วน UPS เป็นระบบสำรองไฟที่รวมทั้งแบตเตอรี่ อินเวอร์เตอร์ และวงจรควบคุมไว้ในตัว ช่วยจ่ายไฟชั่วคราวเมื่อไฟดับ โดย UPS เน้นความต่อเนื่องของพลังงาน ในขณะที่อินเวอร์เตอร์เพียงแปลงพลังงานเท่านั้น

ขึ้นอยู่กับประเภทของอุปกรณ์ที่ใช้งาน หากใช้งานกับอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ มอเตอร์ หรือเครื่องใช้ที่มีความไวต่อคลื่นไฟฟ้า ควรเลือกประเภท Pure Sine Wave Inverter เพราะให้คลื่นไฟฟ้าที่ราบเรียบและเสถียรที่สุด ส่วน Modified Sine Wave เหมาะกับการใช้งานทั่วไป และ Square Wave เหมาะกับโหลดที่ไม่ซับซ้อน เช่น หลอดไฟหรือฮีตเตอร์

ได้ โดยเฉพาะในงานควบคุมมอเตอร์ อินเวอร์เตอร์สามารถปรับความเร็วรอบให้เหมาะสมกับโหลดได้อย่างแม่นยำ จึงลดการใช้พลังงานฟุ่มเฟือยลง และช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาวได้อย่างมีนัยสำคัญ

ระบบโซลาร์เซลล์ควรใช้อินเวอร์เตอร์ประเภท Grid-Tied, Off-Grid หรือ Hybrid ขึ้นอยู่กับรูปแบบการใช้งาน หากต้องการขายไฟเข้าระบบหรือใช้ร่วมกับไฟจากการไฟฟ้า ควรเลือก Grid-Tied Inverter ส่วน Hybrid Inverter เหมาะกับผู้ที่ต้องการใช้พลังงานสำรองจากแบตเตอรี่ร่วมด้วย

โดยทั่วไป อินเวอร์เตอร์มีอายุการใช้งานเฉลี่ยอยู่ที่ 8 – 15 ปี ขึ้นอยู่กับคุณภาพของอุปกรณ์ การระบายความร้อน สภาพแวดล้อมการติดตั้ง และการดูแลรักษา หากเลือกใช้อินเวอร์เตอร์คุณภาพสูง และติดตั้งโดยผู้เชี่ยวชาญ จะช่วยยืดอายุการใช้งานได้ยาวนานยิ่งขึ้น

Share:
Facebook
WhatsApp
Email
Picture of Nutthaphume Engineering
Nutthaphume Engineering

ให้บริการอย่างครบวงจร ให้คำปรึกษา ออกแบบ
ติดตั้ง ตรวจสอบ และบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแรงสูง/แรงต่ำ ระบบโซลาร์เซลล์ ระบบเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger)

เลือกอ่าน

Nutthaphume Engineering ให้บริการอย่างครบวงจร

ให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง ตรวจสอบ และบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแรงสูง/แรงต่ำ ระบบโซลาร์เซลล์ ระบบเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger)