1. ความสำคัญของการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในโรงงานอุตสาหกรรม
การใช้พลังงานจากแหล่งพลังงานทดแทน เช่น โซลาร์เซลล์ (Solar Cells) เป็นที่นิยมอย่างมากในภาคอุตสาหกรรม เนื่องจากโซลาร์เซลล์สามารถช่วยลดต้นทุนการใช้พลังงานในระยะยาว โดยเฉพาะโรงงานที่ใช้พลังงานในปริมาณสูง
ประโยชน์ของการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในโรงงานรวมถึง :
1. ลดค่าไฟฟ้า
โซลาร์เซลล์ผลิตพลังงานได้เอง จึงช่วยลดการพึ่งพาไฟฟ้าจากภาครัฐ
2. เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
พลังงานแสงอาทิตย์เป็นพลังงานสะอาด ช่วยลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก
3. คืนทุนรวดเร็ว
การติดตั้งโซลาร์เซลล์มีการคืนทุนในระยะเวลา 5-10 ปี ขึ้นอยู่กับขนาดของระบบ
4. เสริมภาพลักษณ์
การใช้พลังงานสะอาดช่วยให้ธุรกิจมีภาพลักษณ์ที่ดีต่อผู้บริโภค
2. กฎหมายและมาตรฐานการติดตั้งโซลาร์เซลล์
2.1 การขออนุญาตติดตั้งโซล่าเซลล์
การขออนุญาตติดตั้งโซล่าเซลล์ในโรงงานอุตสาหกรรมจำเป็นต้องดำเนินการตามขั้นตอนของหน่วยงานภาครัฐที่เกี่ยวข้อง ซึ่งกระบวนการนี้เป็นส่วนสำคัญเพื่อให้มั่นใจว่าการติดตั้งจะปลอดภัย และเป็นไปตามกฎหมายที่กำหนด
โดยขั้นตอนทั่วไปในการขออนุญาตมี ได้แก่ :
2.1.1 ติดต่อหน่วยงานที่รับผิดชอบ
โรงงานที่ต้องการติดตั้งโซลาร์เซลล์ต้องติดต่อกับกรมพัฒนาพลังงานทดแทน และอนุรักษ์พลังงาน (DEDE) เพื่อขออนุญาต
2.1.2 ยื่นเอกสารและแผนผัง
ต้องยื่นเอกสารแสดงข้อมูลการออกแบบ และติดตั้งระบบโซลาร์เซลล์รวมถึงแผนผังทางเทคนิค
2.1.3 รับการตรวจสอบ
หน่วยงานที่รับผิดชอบจะเข้ามาตรวจสอบความถูกต้อง และความปลอดภัยของระบบที่เสนอ
2.1.4 การออกใบอนุญาต
หากระบบผ่านการตรวจสอบ จะได้รับใบอนุญาตการติดตั้ง ซึ่งต้องเป็นไปตามกฎหมายการติดตั้งโซล่าเซลล์ที่ระบุไว้ในกฎหมายพลังงานหมุนเวียน
2.2 กฎหมายการติดตั้งโซล่าเซลล์
การติดตั้งโซลาร์เซลล์ในประเทศไทยต้องปฏิบัติตามกฎหมายและมาตรฐานที่ออกโดยหน่วยงานรัฐ
โดยกฎหมายสำคัญที่เกี่ยวข้องกับการติดตั้งโซล่าเซลล์โรงงาน ได้แก่ :
พระราชบัญญัติพลังงานหมุนเวียน
กฎหมายฉบับนี้เน้นส่งเสริมการใช้พลังงานหมุนเวียน เช่น โซลาร์เซลล์
มาตรฐานความปลอดภัยของระบบไฟฟ้า
กฎหมายนี้กำหนดให้ทุกระบบไฟฟ้าต้องปฏิบัติตามมาตรฐานความปลอดภัย เพื่อป้องกันการเกิดไฟฟ้าลัดวงจรหรืออุบัติเหตุ
กฎหมายการก่อสร้าง
กฎหมายนี้เกี่ยวข้องกับการออกแบบและติดตั้งโครงสร้างรองรับแผงโซลาร์เซลล์ เพื่อให้มั่นใจว่ามีความแข็งแรง และปลอดภัยต่อการใช้งาน
การติดตั้งโซล่าเซลล์ที่ไม่ได้รับการอนุญาตจากหน่วยงานรัฐอาจนำไปสู่การปรับหรือการบังคับใช้กฎหมายตามมาตรการที่กำหนด
2.3 มาตรฐานการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในโรงงาน
มาตรฐาน IEC (International Electrotechnical Commission)
มาตรฐาน IEC เป็นมาตรฐานสากลที่ใช้ในการกำหนดคุณภาพและความปลอดภัยของอุปกรณ์ไฟฟ้า รวมถึงระบบโซลาร์เซลล์ โรงงานที่ต้องการติดตั้งโซลาร์เซลล์ต้องปฏิบัติตามมาตรฐาน IEC เพื่อให้มั่นใจว่าระบบทำงานอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัย
มาตรฐาน IEEE (Institute of Electrical and Electronics Engineers)
3. ประเภทการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในโรงงาน
การติดตั้งโซลาร์เซลล์ในโรงงานอุตสาหกรรมสามารถแบ่งออกได้เป็นหลายประเภทขึ้นอยู่กับพื้นที่ที่มีอยู่และวัตถุประสงค์ในการใช้งานของโรงงานโดยประเภทหลัก ๆ ของการติดตั้งโซลาร์เซลล์ในโรงงาน ได้แก่ :
3.1 ระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคา (Solar Rooftop)
หนึ่งในระบบที่ได้รับความนิยมมากที่สุดในโรงงานอุตสาหกรรมคือ Solar Rooftop ซึ่งเป็นการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนหลังคาของโรงงาน ระบบนี้มีข้อดีคือสามารถใช้พื้นที่ว่างบนหลังคาให้เกิดประโยชน์ในการผลิตพลังงานแสงอาทิตย์ข้อดีของระบบโซลาร์เซลล์บนหลังคา คือ :
ใช้พื้นที่ที่มีอยู่แล้วให้เกิดประโยชน์
ไม่ต้องเสียพื้นที่สำหรับติดตั้งโซลาร์เซลล์เพิ่มเติม เพราะใช้พื้นที่หลังคาโรงงานซึ่งมักมีขนาดใหญ่
ช่วยลดค่าไฟฟ้า
สามารถผลิตพลังงานได้ในช่วงเวลาที่โรงงานมักจะใช้ไฟฟ้ามากที่สุด (ช่วงกลางวัน) ทำให้ลดภาระการใช้ไฟจากโครงข่ายไฟฟ้าภายนอก
ลดความร้อนบนหลังคา
แผงโซลาร์เซลล์ยังช่วยป้องกันแสงแดดไม่ให้เข้าสู่ตัวอาคารโดยตรง ทำให้ลดอุณหภูมิภายในโรงงาน
3.2 ระบบโซลาร์เซลล์แบบติดตั้งภาคพื้นดิน (Ground-Mounted Solar System)
ระบบนี้เป็นการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์บนพื้นดิน เหมาะสำหรับโรงงานที่มีพื้นที่ว่างขนาดใหญ่ ซึ่งไม่สามารถใช้พื้นที่หลังคาได้ หรือพื้นที่หลังคาไม่เพียงพอ
ข้อดีของระบบโซลาร์เซลล์แบบติดตั้งภาคพื้นดิน คือ :
สามารถติดตั้งได้ในปริมาณมาก
เนื่องจากไม่มีข้อจำกัดเรื่องขนาดพื้นที่เหมือนกับหลังคา ทำให้สามารถติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ได้มากขึ้น ส่งผลให้สามารถผลิตพลังงานได้มากขึ้น
ปรับมุมเอียงได้อย่างอิสระ
แผงโซลาร์เซลล์สามารถติดตั้งได้ในมุมที่เหมาะสมที่สุดสำหรับการรับแสงอาทิตย์ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องโครงสร้างอาคาร
ข้อเสียของระบบโซลาร์เซลล์แบบติดตั้งภาคพื้นดิน คือ :
การติดตั้งต้องใช้พื้นที่ภาคพื้นดินมากขึ้น ซึ่งอาจจะเป็นข้อจำกัดสำหรับโรงงานที่มีพื้นที่ใช้สอยน้อย และยังต้องดูแลรักษาพื้นที่ติดตั้งมากกว่าการติดตั้งบนหลังคา
3.3 ระบบโซลาร์เซลล์แบบลอยน้ำ (Floating Solar System)
อีกหนึ่งทางเลือกสำหรับโรงงานที่มีพื้นที่ว่างสำหรับแหล่งน้ำ เช่น สระน้ำหรือบ่อเก็บน้ำในโรงงาน คือการติดตั้งโซลาร์เซลล์แบบลอยน้ำ
ข้อดีของระบบโซลาร์เซลล์แบบลอยน้ำ คือ :
ทำให้พื้นที่น้ำในโรงงานถูกใช้อย่างเกิดประโยชน์
พื้นที่น้ำที่ไม่ได้ใช้งานสามารถถูกนำมาใช้สำหรับการผลิตพลังงาน โดยไม่กระทบกับพื้นที่อื่น ๆ ของโรงงาน
ช่วยลดอุณหภูมิของแผงโซลาร์เซลล์
น้ำสามารถช่วยระบายความร้อนให้กับแผงโซลาร์เซลล์ ทำให้แผงทำงานได้มีประสิทธิภาพมากขึ้น โดยเฉพาะในช่วงที่อากาศร้อนจัด
ลดการระเหยของน้ำ
แผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งบนผิวน้ำช่วยลดการระเหยของน้ำในบ่อหรือแหล่งน้ำได้
3.4 ระบบโซลาร์เซลล์แบบไฮบริด (Hybrid Solar System)
ระบบไฮบริดเป็นการรวมเอาระบบโซลาร์เซลล์เข้ากับแหล่งพลังงานอื่นๆ เช่น การใช้พลังงานจากโครงข่ายไฟฟ้าร่วมกับพลังงานแสงอาทิตย์
ข้อดีของระบบโซลาร์เซลล์แบบไฮบริด คือ :
มีความเสถียรในการจ่ายไฟฟ้า
แม้ในช่วงที่โซลาร์เซลล์ไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้เพียงพอ เช่น ในช่วงกลางคืน หรือวันที่มีเมฆมาก ระบบก็ยังสามารถใช้พลังงานจากแหล่งอื่นได้อย่างต่อเนื่อง
เหมาะสำหรับโรงงานที่ต้องการความมั่นคงทางพลังงาน
โรงงานที่ไม่สามารถมีการหยุดชะงักในการใช้พลังงาน เช่น อุตสาหกรรมการผลิตขนาดใหญ่สามารถใช้ระบบนี้เพื่อให้มีแหล่งพลังงานสำรองใช้งานในกรณีฉุกเฉิน
4. การบำรุงรักษาระบบโซลาร์เซลล์ในโรงงานอุตสาหกรรม
การบำรุงรักษาระบบโซลาร์เซลล์ในโรงงานอุตสาหกรรมเป็นสิ่งสำคัญที่ช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งาน การดูแลรักษาอย่างถูกวิธีจะช่วยลดความเสี่ยงของการเสียหายก่อนเวลาอันควร และช่วยให้สามารถผลิตพลังงานไฟฟ้าได้ตามที่คาดหวังไว้
4.1 ขั้นตอนและวิธีการบำรุงรักษาระบบโซลาร์เซลล์ในโรงงานอุตสาหกรรม
4.1.1 ตรวจสอบแผงโซลาร์เซลล์ (Solar Panels Inspection)
การตรวจสอบแผงโซลาร์เซลล์เป็นขั้นตอนสำคัญในการบำรุงรักษา เพื่อให้แน่ใจว่าแผงสามารถรับแสงอาทิตย์ และผลิตพลังงานได้เต็มประสิทธิภาพ
รายละเอียดของการตรวจสอบตรวจสอบแผงโซลาร์เซลล์ ได้แก่ :
4.1.1.1 สิ่งสกปรกหรือฝุ่นบนแผงโซลาร์เซลล์
ฝุ่น ใบไม้ ขี้นก หรือสิ่งสกปรกอื่น ๆ ที่สะสมบนแผงโซลาร์เซลล์จะทำให้แสงอาทิตย์ผ่านลงสู่เซลล์ได้น้อยลง ส่งผลให้ประสิทธิภาพการผลิตพลังงานลดลง การทำความสะอาดแผงเป็นประจำจึงเป็นสิ่งสำคัญ โดยเฉพาะในพื้นที่ที่มีฝุ่นละอองหรือมลพิษในอากาศสูง
4.1.1.2 รอยแตกหรือความเสียหายของแผง
แผงโซลาร์เซลล์ที่แตกหรือเสียหายอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการผลิตพลังงาน การตรวจสอบแผงเป็นระยะจะช่วยตรวจพบความเสียหาย และสามารถแก้ไขได้ทันที
4.1.1.3 มุมติดตั้ง
แผงโซลาร์เซลล์ควรติดตั้งในมุมที่เหมาะสมเพื่อให้สามารถรับแสงอาทิตย์ได้มากที่สุด ดังนั้นจึงควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าแผงยังคงอยู่ในตำแหน่งที่ถูกต้องอยู่เสมอ
4.1.2 ตรวจสอบสายไฟและระบบการเชื่อมต่อ (Wiring and Connection Inspection)
สายไฟและการเชื่อมต่อระหว่างแผงโซลาร์เซลล์กับระบบควบคุมไฟฟ้าควรได้รับการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อตรวจหาความเสียหายที่อาจเกิดจากการใช้งาน
รายละเอียดของการตรวจสอบสายไฟและระบบการเชื่อมต่อ ได้แก่ :
4.1.2.1 สายไฟที่ชำรุดหรือหลวม
สายไฟที่มีความเสียหายอาจทำให้ระบบทำงานไม่เต็มประสิทธิภาพ หรือในกรณีที่แย่ที่สุดอาจทำให้เกิดไฟฟ้าลัดวงจร การตรวจสอบสายไฟและจุดเชื่อมต่อว่ามีความเสียหายหรือหลวมหรือไม่จึงมีความสำคัญมาก
4.1.2.2 อุปกรณ์ควบคุมและตู้เก็บอุปกรณ์ไฟฟ้า
ตู้เก็บอุปกรณ์ไฟฟ้าและอินเวอร์เตอร์ควรได้รับการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าระบบยังคงทำงานได้อย่างถูกต้อง และไม่มีความเสี่ยงของไฟฟ้าลัดวงจรหรือความร้อนเกิน
4.1.3 ตรวจสอบอินเวอร์เตอร์ (Inverter Maintenance)
อินเวอร์เตอร์ (Inverter) เป็นส่วนสำคัญของระบบโซลาร์เซลล์ที่ทำหน้าที่แปลงพลังงานไฟฟ้ากระแสตรง (DC) ที่ผลิตจากแผงโซลาร์เซลล์ให้เป็นพลังงานไฟฟ้ากระแสสลับ (AC) ที่ใช้ในโรงงานอุตสาหกรรม การตรวจสอบและบำรุงรักษาอินเวอร์เตอร์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ระบบทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
รายละเอียดของการตรวจสอบอินเวอร์เตอร์ ได้แก่ :
4.1.3.1 สถานะการทำงานของอินเวอร์เตอร์
อินเวอร์เตอร์มักมีหน้าจอแสดงผลหรือระบบควบคุมที่สามารถบอกสถานะการทำงาน หากพบว่ามีการแจ้งเตือนหรือค่าที่ผิดปกติ ควรรีบดำเนินการตรวจสอบ และแก้ไขทันที
4.1.3.2 ทำความสะอาดและระบายความร้อน
อินเวอร์เตอร์ที่มีความร้อนสูงเกินไปอาจทำให้เกิดความเสียหายหรือทำให้ประสิทธิภาพลดลง การตรวจสอบระบบระบายความร้อน และทำความสะอาดฝุ่นที่สะสมอยู่ภายในจะช่วยลดปัญหาเหล่านี้
4.1.4 ตรวจสอบระบบสำรองพลังงาน (Battery Maintenance)
หากโรงงานมีการติดตั้งระบบสำรองพลังงาน (Battery Storage System) เพื่อเก็บพลังงานที่ผลิตได้ในช่วงที่แสงอาทิตย์น้อย การบำรุงรักษาระบบแบตเตอรี่ก็เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ
รายละเอียดของการตรวจสอบระบบสำรองพลังงาน ได้แก่ :
4.1.4.1 ระดับพลังงาน
ตรวจสอบว่าแบตเตอรี่สามารถเก็บและจ่ายพลังงานได้อย่างเหมาะสม และไม่มีการเสื่อมสภาพหรือมีปัญหาทางเทคนิค
4.1.4.2 อุณหภูมิของแบตเตอรี่
แบตเตอรี่ที่ร้อนเกินไปอาจทำให้เกิดปัญหาได้ การตรวจสอบระบบระบายความร้อนของแบตเตอรี่จึงถือเป็นสิ่งจำเป็น
การขออนุญาตติดตั้งโซลาร์เซลล์และการปฏิบัติตามกฎหมายการติดตั้งโซลาร์เซลล์ที่เกี่ยวข้องเป็นสิ่งสำคัญที่โรงงานทุกแห่งต้องปฏิบัติตาม ทั้งเพื่อให้ระบบสามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีความปลอดภัย ลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน และช่วยอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
หากคุณกำลังมองหาผู้ให้บริการเกี่ยวกับระบบโซล่าเซลล์อย่างครบวงจร ไม่ว่าจะเป็นการออกแบบระบบ ติดตั้ง หรือดูแลรักษา บริษัท Nutthaphume Engineering ยินดีให้บริการด้วยทีมงานที่ได้รับการรับรอง มีความเชี่ยวชาญ มีความใส่ใจ รวมถึงใช้อุปกรณ์ที่มีมาตรฐานระดับโลกในการให้บริการ