ความสำคัญของการดูแลรักษาที่ชาร์จรถไฟฟ้า
การดูแลรักษาที่ชาร์จรถไฟฟ้ามีความสำคัญเป็นอย่างมาก เพราะจะช่วยลดโอกาสที่เครื่องจะชำรุดหรือเสียหายเร็วกว่าปกติ มองเห็นจุดที่เสียหายเพื่อนำไปสู่การแก้ไขได้รวดเร็ว ช่วยรักษาประสิทธิภาพในการชาร์จ ประหยัดค่าใช้จ่ายซ่อมแซมก้อนใหญ่ และยังช่วยเพิ่มความปลอดภัย ลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจรได้อีกด้วย
ด้วยเหตุนี้ หากคุณมีการติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน หรือกำลังทำธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้า การตรวจเช็กสภาพที่ชาร์จรถไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอจึงเป็นสิ่งจำเป็นที่ไม่ควรมองข้าม
เทคนิคดูแลรักษาที่ชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger) มีอะไรบ้าง
การดูแลรักษาที่ชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger) นั้นมีหลากหลายวิธี โดยหลัก ๆ ก็จะเน้นไปที่การดูแลด้านความสะอาด การเช็กสภาพ และจะให้ดีคือควรอัปเดตซอฟต์แวร์และตรวจสอบระบบไฟฟ้าอยู่เสมอ โดยมีรายละเอียดเทคนิควิธีดังต่อไปนี้
1. ทำความสะอาดที่ชาร์จรถไฟฟ้า
ควรทำความสะอาดเครื่องชาร์จเป็นประจำ โดยเฉพาะบริเวณที่ชาร์จและช่องระบายอากาศ เพื่อป้องกันฝุ่นละอองและสิ่งสกปรกเข้าไปสะสม ซึ่งอาจส่งผลต่อประสิทธิภาพการทำงานของเครื่องชาร์จ
2. ตรวจสอบสภาพอุปกรณ์อย่างสม่ำเสมอ
อุปกรณ์ต่าง ๆ ของที่ชาร์จรถไฟฟ้า เช่น สายไฟ ขั้วต่อ และตัวเครื่องชาร์จ ควรมีการตรวจสอบอย่างสม่ำเสมอ เพื่อหารอยรั่ว รอยแตก หรือความเสียหายอื่น ๆ ที่อาจเกิดขึ้น
3. หลีกเลี่ยงการติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสม
การติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้า โดยเฉพาะการติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้าที่มักจะอยู่ในพื้นที่กลางแจ้ง ควรมีอุปกรณ์ป้องกัน เช่น ปลอกหรือฝาครอบ เพื่อป้องกันความเสียหายจากสภาพอากาศ นอกจากนี้ยังไม่ควรติดตั้งในพื้นที่ที่มีความชื้นสูง หรือมีฝุ่นละอองมากเกินไป เพื่อไม่ให้ความชื้นสะสมจนทำให้อุปกรณ์เสียหาย
4. อัปเดตซอฟต์แวร์อย่างสม่ำเสมอ
การอัปเดตซอฟต์แวร์ก็เป็นเทคนิคที่ไม่ควรมองข้ามในการดูแลรักษาที่ชาร์จรถไฟฟ้า โดยควรตรวจสอบและอัปเดตซอฟต์แวร์ของเครื่องชาร์จตามคำแนะนำของผู้ผลิต เพื่อให้เครื่องยังคงทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีความปลอดภัย
5. ตรวจสอบระบบไฟฟ้าภายในบ้าน
เพราะการติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่บ้านจะต้องใช้ร่วมกับอุปกรณ์ไฟฟ้าในบ้าน จึงควรมีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าของบ้านให้มีความพร้อมในการรองรับการใช้งานเครื่องชาร์จ และอาจติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร เช่น RCD (Residual Current Device) เสริมเข้าไปด้วยเพื่อความปลอดภัย
หรือหากเป็นธุรกิจ EV Charger อาจใช้บริการออกแบบระบบสถานีชาร์จรถไฟฟ้ามาเพื่อช่วยวางระบบไฟฟ้าให้มีความเสถียร และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
6. ใช้งานที่ชาร์จรถไฟฟ้าอย่างเหมาะสม
พฤติกรรมการใช้งานที่ชาร์จรถไฟฟ้าก็สามารถส่งผลต่อประสิทธิภาพการใช้งานได้เช่นกัน โดยควรหลีกเลี่ยงการชาร์จแบตเตอรี่จนเต็ม 100% หรือปล่อยให้แบตเตอรี่รถยนต์หมดเกลี้ยง 0% บ่อย ๆ เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วกว่าปกติ เครื่องชาร์จใช้เวลาชาร์จนานมากขึ้น และอาจทำให้ระบบภายในเครื่องเสื่อมเร็วขึ้น
7. ชาร์จในอุณหภูมิที่เหมาะสม
ควรหลีกเลี่ยงการชาร์จในสภาพอากาศร้อนจัด โดยเฉพาะการชาร์จเร็ว (DC Charging) เพราะอาจทำให้แบตเตอรี่ร้อน และเป็นการเร่งให้แบตเตอรี่เสื่อมสภาพเร็วขึ้น นอกจากนี้ตัวที่ชาร์จรถไฟฟ้าก็อาจจะมีอุณภูมิสูง ทำให้เป็นอันตรายได้
8. หมั่นตรวจสอบและบำรุงรักษาที่ชาร์จรถไฟฟ้าอย่างสม่ำเสมอ
ควรมีการตรวจสอบและบำรุงรักษาเครื่องชาร์จตามคำแนะนำของผู้ผลิตอย่างสม่ำเสมอ เพื่อให้เครื่องทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและมีอายุการใช้งานที่ยาวนาน และป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นจากการใช้งานที่ผิดวิธี หรือใช้งานในสภาพแวดล้อมที่ไม่เหมาะสมได้
ณัฐภูมิ วิศวกรรม บริการบำรุงดูแลรักษาที่ชาร์จรถไฟฟ้า ทั้ง EV Charger บ้าน และธุรกิจครบวงจร
การดูแลรักษาที่ชาร์จรถไฟฟ้า เป็นสิ่งสำคัญที่บ้านและธุรกิจสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าต้องให้ความสำคัญ เพราะจะเป็นการคงประสิทธิภาพของเครื่อง EV Charger ให้ใช้งานได้ยาวนานมากขึ้น และเพื่อให้การดูแลรักษาที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าของคุณสมบูรณ์ครบทุกมิติณัฐภูมิ วิศวกรรม มีบริการออกแบบ ติดตั้ง และบำรุงรักษาที่ชาร์จรถไฟฟ้า EV Charger แบบครบวงจร ให้บริการโดยทีมช่างผู้เชี่ยวชาญในด้านระบบไฟฟ้า พร้อมอุปกรณ์ที่ได้รับรองมาตรฐานอย่างถูกต้อง มั่นใจ ปลอดภัย ได้เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ให้ประสิทธิภาพดีเหมือนใหม่ ประหยัดค่าใช้จ่ายและเสริมธุรกิจได้อย่างยั่งยืน
ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ติดต่อเรา
หรือโทร 098-291-4911 และแอดไลน์@npeng
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการดูแลรักษาที่ชาร์จรถไฟฟ้า
1. ควรเช็กสภาพที่ชาร์จรถไฟฟ้าบ่อยแค่ไหน?
ควรตรวจเช็กที่ชาร์จรถไฟฟ้าทุกสัปดาห์ หรือทุกครั้งก่อนใช้งานเพื่อดูว่ามีจุดไหนผิดปกติหรือไม่
2. มีจุดไหนของที่ชาร์จรถไฟฟ้าที่ต้องดูแลเป็นพิเศษบ้าง?
สายชาร์จ หัวชาร์จ แท่นชาร์จ เช็กว่ามีรอยแตกหรือรอยไหม้หรือไม่ และเช็กบริเวณตัวเชื่อมต่อต่าง ๆ ที่มักจะมีฝุ่นละอองเข้าไปสะสม นอกจากนี้ยังควรสังเกตว่ามีกลิ่นไหม้ หรือเสียงการทำงานผิดปกติหรือไม่ หากพบความผิดปกติควรหยุดใช้งานทันที และติดต่อทีมช่างที่เชี่ยวชาญด้านเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าให้เข้ามาตรวจสอบ
3. ถ้าพบความเสียหายเล็กน้อยที่สายชาร์จหรือหัวชาร์จ ควรถอดทิ้งเลยหรือไม่?
หากพบความเสียหายเล็ก ๆ น้อย ๆ เช่น ฉนวนสายชำรุด, มีรอยแตกที่หัวชาร์จ, หรือขาปลั๊กงอ ไม่ควรใช้งานต่อโดยเด็ดขาด เพราะอาจเกิดอันตรายได้ ควรปรึกษาช่างผู้เชี่ยวชาญหรือศูนย์บริการเพื่อประเมิน ซ่อมแซม หรือเปลี่ยนอุปกรณ์ใหม่ทันที
4. ทำความสะอาดเครื่องชาร์จรถไฟฟ้าอย่างไร?
ใช้ผ้าแห้งเนื้อนุ่ม หรือผ้าชุบน้ำหมาด ๆ เช็ดทำความสะอาดตัวเครื่องและสายชาร์จ หลีกเลี่ยงการใช้น้ำยาทำความสะอาดที่มีฤทธิ์กัดกร่อน หรือการฉีดน้ำโดยตรงไปที่ตัวเครื่องและหัวชาร์จ ทำความสะอาดพอร์ตและขั้วต่อด้วยแปรงขนนุ่ม หรือใช้ตัวบีบลมเป่าเบา ๆ เพื่อกำจัดฝุ่นละอองและสิ่งสกปรก
5. อากาศร้อน หรือฝนตก มีผลต่อที่ชาร์จรถไฟฟ้าไหม?
มีผล เนื่องจากการติดตั้งที่ชาร์จรถไฟฟ้าในที่ที่โดนแสงแดดจัดเป็นเวลานาน อาจทำให้เครื่องร้อนจัด ประสิทธิภาพการทำงานลดลง ควรพิจารณาติดตั้งในที่ร่มหรือมีหลังคากันแดด
ในส่วนของพื้นที่ที่โดนฝน หรือมีความชื้น แม้ที่ชาร์จส่วนใหญ่จะออกแบบมาให้กันน้ำได้ แต่ก็ควรหลีกเลี่ยงการติดตั้งในบริเวณที่โดนฝนสาดโดยตรง หรือมีน้ำขัง เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจรและความเสียหายในระยะยาว นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบว่าปลั๊กและเต้ารับแห้งสนิทก่อนใช้งานเสมอ