ข้อควรรู้ก่อนตรวจสอบระบบไฟฟ้าประจำปี 2568 ต้องตรวจอะไรบ้าง?

การตรวจไฟฟ้าประจำปีเป็นข้อกำหนดตามกฎหมาย เพื่อสร้างความปลอดภัยให้กับบุคลากรที่ทำงานเกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้า และลดความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจร การตรวจสอบระบบไฟฟ้าจึงต้องมีการกำหนดข้อปฏิบัติ วิธีการ และหลักเกณฑ์ในการตรวจสอบที่ผู้ประกอบการต้องทราบและปฏิบัติตามอย่างเคร่งครัด

ในบทความนี้จะพาไปทำความเข้าใจเกี่ยวกับในเรื่องนี้กันว่า การตรวจสอบระบบไฟฟ้าในโรงงาน ตามกฎหมายกำหนด ในปี 2568 ตรวจอะไรบ้าง หรือมีหลักเกณฑ์ใหม่ที่ต้องรู้อย่างไร
ตรวจไฟฟ้าประจําปีตามกฎหมาย

กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับการตรวจสอบระบบไฟฟ้า

การตรวจสอบไฟฟ้าประจำปีในโรงงานและอาคารตามกฎหมาย “กำหนดมาตรฐานในการบริหาร จัดการ และดำเนินการด้านความปลอดภัย อาชีวอนามัย และสภาพแวดล้อมในการทำงานเกี่ยวกับไฟฟ้า พ.ศ. 2558” กำหนดให้เจ้าของโรงงานต้องดำเนินการตรวจสอบระบบไฟฟ้าอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง โดยวิศวกรไฟฟ้าผู้ตรวจสอบต้องเป็นบุคคลที่ขึ้นทะเบียนตามมาตรา 9 หรือเป็นนิติบุคคลที่ได้รับใบอนุญาตตามมาตรา 11 และต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ที่ประกาศไว้ ซึ่งขั้นตอนการตรวจสอบต้องปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไขที่มีการประกาศตามข้อกำหนด โดยหลังตรวจระบบไฟฟ้าประจำปีแล้ว ต้องจัดทำรายงานผลการตรวจสอบเพื่อเป็นหลักฐานตามข้อกฎหมาย

อ่านบทความที่น่าสนใจ :เจาะลึกระบบไฟฟ้าในโรงงานอุตสาหกรรม มีกี่แบบ เลือกใช้อย่างไรให้เหมาะสม

ตรวจสอบระบบไฟฟ้า

ตรวจไฟฟ้าประจำปีตามกฎหมาย ต้องตรวจอะไรบ้าง?

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าประจำปีตามกฎหมายตรวจไฟฟ้าของกรมโรงงานอุตสาหกรรมนั้นมีหลักเกณฑ์การตรวจสอบที่ระบุไว้ในแบบฟอร์มตรวจเช็คอุปกรณ์ไฟฟ้า โดยแบ่งการตรวจสอบเป็น 3 ส่วน

1. การตรวจสอบมาตรฐานทั่วไป

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าในอาคาร ตามมาตรฐานทั่วไป เป็นการตรวจสอบระบบไฟฟ้าทั่วไป และการตรวจเช็กอย่างง่าย โดยผู้ตรวจสอบจะทำการตรวจสอบเบื้องต้น โดยมีรายละเอียดดังนี้

  • ระบบไฟฟ้าที่ใช้ในโรงงาน
  • ขนาดเครื่องวัดหน่วยไฟฟ้า,​ หมายเลขเครื่องวัด
  • หม้อแปลงกำลังที่ติดตั้งของโรงงาน (ถ้ามี)
  • เครื่องกำเนิดไฟฟ้าสำรอง (ถ้ามี)
  • ปริมาณการใช้พลังงานไฟฟ้าสูงสุดในรอบ 12 เดือนที่ผ่านมา
  • ผู้รับผิดชอบระบบไฟฟ้าโรงงาน
  • แบบการติดตั้งระบบไฟฟ้าจริง (As built Drawing)
  • การเดินสายและติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าในบริเวณที่อันตราย
  • มาตรฐานที่ใช้อ้างอิงในการตรวจสอบ

2. การตรวจสอบอุปกรณ์ไฟฟ้า

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าที่ตัวอุปกรณ์ไฟฟ้า เพื่อหาจุดบกพร่อง ความผิดปกติ หรือการเสื่อมสภาพของตัวอุปกรณ์ ซึ่งเป็นการตรวจสอบที่มีหลายขั้นตอน และบางอุปกรณ์จำเป็นต้องตรวจสอบขณะจ่ายไฟ โดยมีรายละเอียดดังนี้

ระบบไฟฟ้าแรงสูง

  • สายอากาศ
    • สภาพเสา
    • การประกอบอุปกรณ์หัวเสา
    • สายยึดโยง
    • ชนิดของสายไฟฟ้า
    • การพาดสาย
    • ระยะห่างของสายกับอาคาร สิ่งก่อสร้างหรือต้นไม้
    • การติดตั้งล่อฟ้าและสภาพ
    • สภาพของจุดต่อสาย
    • การต่อลงดินและสภาพ
  • การติดตั้งเครื่องปลดวงจรต้นทาง (ส่วนของผู้ใช้ไฟ)
    • ดรอปฟิวส์คัตเอาต์
    • สวิตช์ตัดตอน
    • RMU

หม้อแปลงไฟฟ้า

  • ขนาด แรงดัน และชนิด
  • การติดตั้ง
  • เครื่องป้องกันกระแสเกินด้านไฟเข้า
  • การต่อสายแรงต่ำและแรงสูงที่หม้อแปลง
  • การติดตั้งล่อฟ้าแรงสูง
  • การติดตั้งดรอปฟิวส์คัตเอาต์
  • การป้องกันการสัมผัสส่วนที่มีไฟฟ้า
  • สายดินกับตัวถังหม้อแปลงและล่อฟ้าแรงสูง
  • สายดินของหม้อแปลง
    • ค่าความต้านทานของสายดิน
    • สภาพหลักดินและจุดต่อ
    • สภาพสายดินและจุดต่อ
  • สายภายนอกหม้อแปลง
    • สารดูดความชื้น
    • สภาพบุชชิ่ง
    • ปริมาณและการรั่วซึมของน้ำมันหม้อแปลง
    • อุณหภูมิหม้อแปลง
  • สภาพแวดล้อมหม้อแปลง
    • การระบายอากาศ
    • ความชื้น
    • สภาพรั้วและการต่อลงดิน
    • สภาพทั่วไป

ตู้เมนสวิตช์

  • การติดตั้งและสภาพทั่วไป
    • จุดต่อสายและจุดต่อบัสบาร์
    • ที่ว่างเพื่อปฏิบัติงานที่จุดติดตั้ง
    • แสงสว่างเหนือที่ว่าง
    • การต่อฝาก
    • การป้องกันส่วนสัมผัสที่มีไฟฟ้า
    • ป้ายชื่อและแผนภาพเส้นเดี่ยวของเมนสวิตช์
  • เครื่องป้องกันกระแสเกิน
    • ชนิด
    • แรงดัน
    • พิกัดกระแส
  • สายดินของแผงสวิตช์
    • สภาพหลักดินและจุดต่อ
    • สายต่อหลักดิน
    • ค่าความต้านทานของหลักดิน
  • อุณหภูมิของอุปกรณ์

ระบบไฟฟ้าแรงต่ำ

  • วงจรเมน
    • สายเข้าเมนสวิตช์
  • รางเดินสายและรางเคเบิล
    • สภาพการติดตั้งและใช้งาน
    • ความต่อเนื่องทางไฟฟ้า การต่อฝากและการต่อลงดิน
  • สภาพฉนวนสายไฟ
  • สภาพจุดต่อของสาย
  • การป้องกันความร้อนจากการเหนี่ยวนำ
  • อุณหภูมิของอุปกรณ์
  • การติดตั้งแผงย่อย
    • สภาพทั่วไป
    • จุดต่อสายและจุดต่อบัสบาร์
    • ที่วางเพื่อปฏิบัติงานที่จุดติดตั้งแผงย่อย
    • แสงสว่างเหนือที่ว่างเพื่อปฏิบัติงาน
    • การต่อฝาก
    • การป้องกันส่วนสัมผัสที่มีไฟฟ้า
    • ป้ายชื่อและแผนภาพเส้นเเดี่ยว
  • เครื่องป้องกันกระแสเกิน
  • สายดินของแผงย่อย
    • สายดิน
    • สภาพสายดินและจุดต่อ
    • อุณหภูมิของอุปกรณ์

บริภัณฑ์ไฟฟ้าอื่น

  • การติดตั้ง
  • สภาพภายนอก

3. สรุปผลการตรวจสอบ

ผู้ตรวจสอบไฟฟ้าต้องทำการสรุปผลหลังตรวจเช็กระบบไฟฟ้าทั้งหมดเป็นที่เรียบร้อยแล้ว โดยต้องระบุสภาพทั่วไปของอุปกรณ์ที่ตรวจสอบ และสรุปการประเมินสภาพการตรวจทั้งหมด เพื่อให้ทราบว่ามีอุปกรณ์ไฟฟ้าส่วนไหนที่ใช้งานได้ และต้องแก้ไขหรือไม่

กฎหมายตรวจไฟฟ้า กรมโรงงานอุตสาหกรรม

การเลือกผู้ตรวจสอบระบบไฟฟ้าประจำปี

การตรวจสอบระบบไฟฟ้าประจำปี ต้องดำเนินการตรวจสอบโดยผู้ตรวจสอบไฟฟ้าที่เป็นแบบบุคคล (มาตรา 9) หรือแบบนิติบุคคล (มาตรา 11) ที่ผ่านการขึ้นทะเบียนผู้ตรวจและรับรองความปลอดภัยระบบไฟฟ้าเท่านั้น โดยส่วนใหญ่แล้วจะเลือกใช้บริการแบบนิติบุคคลตามมาตรา 11 มากกว่าแบบบุคคล เนื่องจากมีการรับประกันหลังการตรวจสอบ และพร้อมเข้ามาดำเนินการแก้ไขได้มากกว่า รวมถึงเครื่องมือที่ใช้ในการตรวจสอบระบบไฟฟ้าของนิติบุคคล ยังมีเอกสารรับรองการทดสอบตามมาตรฐาน ISO/IEC 17025 ซึ่งเป็นมาตรฐานที่มั่นใจได้ในเรื่องความแม่นยำในการตรวจระบบไฟฟ้ามากกว่า

บริการตรวจสอบไฟฟ้า โดยวิศวกรไฟฟ้า

ณัฐภูมิ วิศวกรรม ผู้ให้บริการตรวจสอบไฟฟ้าประจำปี โดยทีมวิศวกรไฟฟ้าผู้เชี่ยวชาญ

การตรวจสอบไฟฟ้าประจำปี เป็นเรื่องสำคัญตามกฎหมายของกระทรวงอุตสาหกรรมที่เจ้าของโรงงานต้องปฏิบัติตามข้อกำหนด ซึ่งการตรวจสอบไม่ใช่แค่ช่วยให้สบายใจในเรื่องของข้อกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการเพิ่มความปลอดภัยในระบบไฟฟ้าภายในโรงงานด้วย การเลือกผู้ตรวจสอบไฟฟ้าประจำปีจึงเป็นอีกเรื่องที่ไม่ควรมองข้าม เพราะการตรวจสอบต้องเป็นไปตามมาตรฐาน ใช้เครื่องมือที่วัดผลได้และรับรองเรื่องความปลอดภัยได้

ณัฐภูมิ วิศวกรรม มีบริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าประจำปี สำหรับอาคารและโรงงาน ที่ดำเนินการโดยทีมวิศวกรไฟฟ้าผู้เชี่ยวชาญ การตรวจสอบทุกขั้นตอนเป็นไปตามหลักเกณฑ์ของกรมโรงงานอุตสาหกรรม และใช้เครื่องมือได้ผ่านการรับรองมาตรฐาน IISO/IEC 1705 มั่นใจได้ในคุณภาพของผลการตรวจสอบที่แม่นยำและโปร่งใส ช่วยให้คุณรู้ถึงปัญหาและทางแก้ไขได้ก่อนบานปลาย


สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อเรา หรือเลือก โทร.098-291-4911 และแอดไลน์@npeng ได้เลย!

Share:
Facebook
WhatsApp
Email
Picture of Nutthaphume Engineering
Nutthaphume Engineering

ให้บริการอย่างครบวงจร ให้คำปรึกษา ออกแบบ
ติดตั้ง ตรวจสอบ และบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแรงสูง/แรงต่ำ ระบบโซลาร์เซลล์ ระบบเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger)

เลือกอ่าน

Nutthaphume Engineering ให้บริการอย่างครบวงจร

ให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง ตรวจสอบ และบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแรงสูง/แรงต่ำ ระบบโซลาร์เซลล์ ระบบเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger)