เดินระบบไฟฟ้าธุรกิจอย่างไรให้รองรับทั้ง EV Charger และ Solar Cell ได้ในอนาคต

5 ข้อควรรู้ เดินระบบไฟฟ้าอย่างไรให้รองรับทั้ง EV Charger และ Solar Cell ในอนาคต

สำหรับเจ้าของกิจการหรือผู้ดูแลธุรกิจที่มองไกลถึงอนาคต การออกแบบระบบไฟฟ้าให้พร้อมรองรับทั้ง EV Charger และ Solar Cell ตั้งแต่แรก คือการลงทุนที่ชาญฉลาด เพราะไม่เพียงลดต้นทุนในระยะยาวแต่ยังเพิ่มความยืดหยุ่นให้ธุรกิจพร้อมรับมือกับการเปลี่ยนแปลงทางพลังงานที่กำลังเกิดขึ้นอย่างรวดเร็ว ต่อไปนี้คือ 5 ข้อสำคัญที่ควรพิจารณา

1. ประเมินขนาดมิเตอร์ไฟฟ้าให้พร้อมรองรับโหลดในอนาคต

หัวใจสำคัญของการเตรียมพร้อมในการติดตั้งระบบไฟฟ้าคือการตรวจสอบว่ามิเตอร์ไฟฟ้าปัจจุบันมีขนาดเพียงพอสำหรับรองรับโหลดไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นในอนาคตหรือไม่ เพราะการติดตั้ง EV Charger หรือ Solar Rooftop จะเพิ่มภาระโหลดในระบบไฟฟ้าอย่างมีนัยสำคัญ

เจ้าของธุรกิจควรให้วิศวกรไฟฟ้าประเมินความต้องการใช้พลังงานสูงสุด (Peak Demand) ในอนาคต โดยรวมโหลดจากเครื่องจักรต่าง ๆ ระบบแสงสว่าง ระบบปรับอากาศ รวมถึงการชาร์จรถ EV และการผลิตไฟจากแสงอาทิตย์ หากมิเตอร์เดิมมีข้อจำกัด ควรขอขยายขนาดมิเตอร์หรือปรับระบบไฟฟ้าหลักให้เหมาะสมตั้งแต่ต้น

2. วางแผนพื้นที่และโครงสร้างอาคารสำหรับติดตั้ง Solar Rooftop

หากธุรกิจของคุณมีความต้องการติดตั้งSolar Rooftop ควรวางแผนตั้งแต่ขั้นตอนของการออกแบบอาคารหรือระบบไฟฟ้า โดยพิจารณาจาก

• โครงสร้างหลังคา

  ควรตรวจสอบความแข็งแรงของโครงสร้างหลังคาให้สามารถรองรับแผงโซลาร์เซลล์ได้ หากไม่แข็งแรงพอ ควรเสริมโครงสร้างให้แข็งแรงก่อนเริ่มติดตั้งระบบไฟฟ้า

• พื้นที่

  ควรจัดสรรพื้นที่บนหลังคาให้เหมาะสม หลีกเลี่ยงสิ่งกีดขวางแสงแดดหรือการติดตั้งอุปกรณ์อื่น ๆ ที่อาจบังแสงแดดในอนาคต

• เส้นทางเดินสายไฟ

  วางแผนการเดินแนวสายไฟ DC จากแผงโซลาร์เซลล์ลงมายังอินเวอร์เตอร์ และสาย AC จากอินเวอร์เตอร์ไปยังตู้ MDB โดยแนวสายไฟทั้งหมดต้องเชื่อมต่อกันได้สะดวก ง่ายต่อการตรวจสอบและบำรุงรักษา

3. เตรียมโครงสร้างไฟฟ้าสำหรับการติดตั้ง EV Charger

โดยทั่วไปแล้วการติดตั้ง EV Charger ต้องใช้ระบบสายไฟและอุปกรณ์ป้องกันที่รองรับกำลังไฟสูง การวางแผนล่วงหน้าจะช่วยลดภาระการปรับปรุงระบบในภายหลัง ข้อควรพิจารณามีดังนี้

• ตำแหน่งติดตั้ง

  ควรกำหนดตำแหน่งติดตั้ง EV Charger ให้เหมาะสม เช่น ติดตั้งในพื้นที่จอดรถสำหรับพนักงาน ลูกค้า หรือลานจอดรถบริษัท โดยคำนึงถึงความสะดวกในการใช้งานและการเข้าถึงเป็นหลัก

• ขนาดสายไฟและเบรกเกอร์

  EV Charger แต่ละหัวต้องการกำลังไฟฟ้าสูง แนะนำว่าควรเดินสายเมนและเบรกเกอร์เผื่อไว้ตั้งแต่แรก เพราะหากในอนาคตมีการอัปเกรดตู้ที่สามารถจ่ายกำลังไฟได้สูงขึ้นหรือเพิ่มจำนวนตู้จะได้ไม่ต้องรื้อทั้งระบบเพื่อเดินสายไฟใหม่

• ระบบป้องกัน

  ทุกจุดติดตั้ง EV Charger ควรติดตั้งอุปกรณ์ป้องกันกระแสไฟเกินและอุปกรณ์ป้องกันไฟรั่วให้ครบถ้วน เพื่อความปลอดภัยในการใช้งานและป้องกันเหตุฉุกเฉินไม่คาดคิด

คำแนะนำ: ควรพิจารณาถึงการติดตั้งท่อร้อยสายไฟฟ้าขนาดใหญ่ที่สามารถรองรับการเพิ่มจำนวนหัวชาร์จหรือการอัปเกรดเป็นหัวชาร์จที่ใช้กำลังไฟสูงขึ้นในอนาคต

4. เลือกตู้ MDB และอุปกรณ์ที่รองรับการขยายระบบได้ในอนาคต

ตู้ Main Distribution Board (MDB) ถือเป็นศูนย์กลางควบคุมระบบไฟฟ้าของโรงงานหรืออาคาร ควรเลือกรุ่นที่รองรับการขยายระบบและเพิ่มอุปกรณ์ได้ในอนาคต หลักสำคัญในการพิจารณามีดังนี้

• พื้นที่ว่าง

  แนะนำให้เลือกใช้ตู้ MDB ที่มีพื้นที่ว่างสำหรับติดตั้งเบรกเกอร์หรืออุปกรณ์ไฟฟ้าเพิ่มเติม เพื่อรองรับวงจรสำหรับ Solar Cell Inverter หรือ EV Charger ที่มีการติดตั้งเพิ่มในอนาคต

• บัสบาร์ที่รองรับกระแสสูง

  ควรตรวจสอบให้แน่ใจว่าบัสบาร์ในตู้ MDB รองรับกระแสไฟฟ้าทั้งหมดที่ไหลผ่านได้ รวมถึงโหลดจากพลังงานสะอาดในอนาคต

• อุปกรณ์ป้องกันที่ทันสมัย

  พิจารณาใช้เบรกเกอร์ที่สามารถเชื่อมต่อกับระบบควบคุมอัจฉริยะได้ เพื่อการจัดการพลังงานที่มีประสิทธิภาพมากขึ้นและรองรับความต้องการในอนาคต

5. ทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้าตั้งแต่ต้น

ระบบไฟฟ้าที่รองรับเทคโนโลยีพลังงานสะอาดจำเป็นต้องออกแบบโดยผู้มีประสบการณ์ เพราะต้องคำนึงถึงทั้งความปลอดภัย มาตรฐานวิศวกรรม และความคุ้มค่าทางธุรกิจ ข้อดีของการทำงานร่วมกับผู้เชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้าตั้งแต่ต้นมีดังนี้

• ได้รับการออกแบบที่เหมาะสม

  วิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญจะช่วยออกแบบระบบที่เหมาะสมกับโรงงานหรืออาคาร รวมถึงช่วยประเมินความต้องการ คาดการณ์การเติบโต และออกแบบระบบที่คุ้มค่าที่สุดสำหรับธุรกิจของคุณ

• ประหยัดเวลาและค่าใช้จ่ายในระยะยาว

  การวางแผนติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ดีตั้งแต่ต้นจะช่วยลดความจำเป็นในการปรับปรุงใหญ่ในภายหลัง ลดความเสี่ยงด้านความปลอดภัยและลดค่าใช้จ่ายที่อาจตามมาในอนาคต

• มั่นใจในคุณภาพและมาตรฐาน

  การใช้บริการผู้เชี่ยวชาญมาติดตั้งระบบไฟฟ้าทำให้มั่นใจได้ถึงคุณภาพและมาตรฐานการติดตั้งที่เป็นไปตามหลักวิศวกรรมที่ถูกต้อง ปลอดภัย และเป็นไปตามข้อกำหนดของการไฟฟ้า

• รับบริการครบวงจร

  ผู้เชี่ยวชาญสามารถให้คำแนะนำและบริการได้ครบวงจร ทั้งในส่วนของการออกแบบ ติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูง/แรงต่ำ, การติดตั้ง Solar Rooftop, และการติดตั้ง EV Charger รวมถึงการดูแลระบบและการซ่อมบำรุงตามความจำเป็น

อ่านบทความน่าสนใจ:5 เหตุผลที่โรงงานควรลงทุนในโซลาร์เซลล์ พร้อมสิ่งที่ต้องรู้ก่อนติดตั้ง