1. ตรวจสอบความพร้อมของระบบไฟฟ้า
ก่อนติดตั้ง EV Charger
1.1 ตรวจสอบแผงควบคุมไฟฟ้าและสายไฟหลัก
การตรวจสอบแผงควบคุมไฟฟ้าและสายไฟหลักเป็นสิ่งที่จำเป็นก่อนการติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน ควรตรวจสอบว่าแผงควบคุมไฟฟ้าสามารถรองรับกระแสไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นได้หรือไม่ หากแผงควบคุมมีขนาดเล็กเกินไป อาจต้องพิจารณาเพิ่มขนาดหรือเปลี่ยนใหม่เพื่อรองรับการใช้งาน
ตัวอย่าง: หากแผงควบคุมไฟฟ้าของคุณสามารถรองรับได้เพียง 30 แอมป์ คุณอาจต้องพิจารณาเปลี่ยนเป็นแผงควบคุมที่รองรับ 50 แอมป์เพื่อให้รองรับการชาร์จ EV ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
1.2 ตรวจสอบการต่อสายดิน
การต่อสายดินที่ถูกต้องเป็นอีกปัจจัยที่สำคัญเพื่อความปลอดภัยในการติดตั้ง EV Charger การเชื่อมต่อสายดินที่ไม่ดีอาจทำให้เกิดไฟฟ้ารั่วหรือไฟฟ้าลัดวงจรซึ่งเป็นอันตรายต่อผู้อยู่อาศัย
2. วิธีเลือกสถานที่ติดตั้ง EV Charger ในบ้านให้เหมาะสม
2.1 พิจารณาความสะดวกในการใช้งาน
เลือกสถานที่ติดตั้ง EV Charger ที่สะดวกต่อการใช้งานในชีวิตประจำวัน เช่น ใกล้กับที่จอดรถหรือทางเข้าบ้าน เพื่อลดความยุ่งยากในการเสียบปลั๊กและชาร์จรถทุกครั้งที่ต้องการ
อีกส่วนนึงที่ควรพิจารณาคือขนาดของเครื่องชาร์จรถยนตร์ไฟฟ้า เมื่อเลือกซื้อ คุณควรมองหาเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่มีขนาดเล็กแต่มีฟังก์ชันก์ครบครัน อย่างเช่น Wallbox Pulsar Plus และ Wallbox Pulsar Pro จากแบรนด์ระดับโลกอย่าง Huawei นั่นเอง
ตัวอย่าง: หากคุณมีที่จอดรถในโรงรถ ควรติดตั้ง EV Charger ใกล้กับผนังที่อยู่ติดกับรถเพื่อลดระยะห่างในการเสียบปลั๊กและเพิ่มความสะดวกในการใช้งาน
2.2 คำนึงถึงความปลอดภัย
สถานที่ติดตั้ง EV Charger ควรอยู่ในบริเวณที่แห้งและไม่มีน้ำขัง เพื่อป้องกันไฟฟ้าลัดวงจร นอกจากนี้ ควรติดตั้งให้ห่างจากวัตถุไวไฟและไม่อยู่ในบริเวณที่เสี่ยงต่อการชนกระแทก
3. ข้อควรรู้เกี่ยวกับมาตรฐานการติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน
3.1 ปฏิบัติตามมาตรฐานสากลและท้องถิ่น
การติดตั้ง EV Charger ควรปฏิบัติตามมาตรฐานสากล เช่น IEC 61851-1 ที่เกี่ยวกับความปลอดภัยในการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า รวมถึงมาตรฐานท้องถิ่นที่กำหนดโดยหน่วยงานของรัฐ
3.2 การเลือกผู้ติดตั้งที่มีความเชี่ยวชาญ
เพื่อให้การติดตั้งเป็นไปตามมาตรฐาน ควรเลือกผู้ติดตั้งที่มีประสบการณ์และได้รับการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง การติดตั้งที่ไม่ถูกต้องอาจนำไปสู่ปัญหาด้านความปลอดภัยและการใช้งานในระยะยาว
การติดตั้ง EV Charger ที่บ้านเป็นขั้นตอนที่ต้องให้ความสำคัญเพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพในการชาร์จ การตรวจสอบความพร้อมของระบบไฟฟ้า การเลือกสถานที่ติดตั้งที่เหมาะสม และการปฏิบัติตามมาตรฐานการติดตั้งเป็นสิ่งที่ไม่ควรมองข้าม เพื่อให้คุณได้รับประสบการณ์การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ดีที่สุด