ทำไมการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูงในโรงงานถึงต้องตรงตามมาตรฐาน?
การติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูงในโรงงานอุตสาหกรรมนั้นควรที่จะเป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด ไม่เพียงเพื่อให้สอดคล้องกับกฎหมายเท่านั้น แต่ยังเป็นการสร้างความมั่นใจด้านความปลอดภัยในการทำงานลดความเสี่ยงไฟไหม้และไฟฟ้าลัดวงจรจากอุปกรณ์ที่ไม่ได้คุณภาพ และยังช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานได้อีกด้วย
ถ้าหากระบบไฟฟ้าในโรงงานดี ตรงตามมาตรฐานความปลอดภัยระบบไฟฟ้า ก็จะทำให้การจ่ายกระแสไฟฟ้าสม่ำเสมอ มีเสถียรภาพ ส่งผลให้งานดำเนินไปได้อย่างราบรื่น ไม่ติดขัดจากปัญหาเล็ก ๆ น้อย หรือต้องพบเจอกับปัญหาไฟตก-ไฟกระชากอยู่บ่อย ๆ อีกด้วย
3 มาตรฐานหลักที่ครอบคลุมงานติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูง
สำหรับการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูงในโรงงานอุตสาหกรรมหรือธุรกิจขนาดใหญ่ ควรจะต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัยระบบไฟฟ้า 3 มาตรฐานหลัก ดังนี้
1. มาตรฐานการไฟฟ้า (กฟน. / กฟภ.)
เนื่องจากเป็นการใช้ไฟฟ้าแรงสูงในปริมาณมาก ผู้ประกอบการจึงต้องทำการขออนุญาตกับทางการไฟฟ้าในเขตที่มีอำนาจครอบคลุมที่ตั้งโรงงาน เช่นการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.)หรือการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) โดยจะต้องยื่นเอกสาร แบบแปลน รายงานการคำนวณโหลดไฟฟ้าต่าง ๆ รวมถึงอุปกรณ์ทั้งหมดที่ใช้ภายในอุตสาหกรรม เพื่อนำแผนติดตั้งไปขออนุญาตกับทางการไฟฟ้า และเมื่อได้รับการอนุมัติถึงจะทำการติดตั้งได้ ถือเป็นขั้นตอนทางกฎหมายที่ต้องทำตามอย่างเคร่งครัด
หลังจากติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูงเรียบร้อยแล้ว จะต้องให้ช่างวิศวกรที่มีความเชี่ยวชาญและมีใบอนุญาต เข้ามาทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้าว่ามีความเสถียรหรือไม่ ความสามารถรองรับโหลดไฟฟ้าเหมาะสมหรือไม่ รวมถึงตรวจเช็กความเรียบร้อยในการเชื่อมต่ออุปกรณ์ต่าง ๆ เพื่อให้แน่ใจว่าจะเป็นไปตามมาตรฐานและทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ
2. มาตรฐานทางวิศวกรรมตามกฎหมายและข้อบังคับ
ในการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูง จะต้องเป็นไปตามหลักวิศวกรรมและข้อกำหนดของสภาวิศวกร โดยจะต้องได้มาตรฐานตั้งแต่ทีมช่างที่เข้ามาทำการติดตั้ง ควรเป็นวิศวกรที่ได้รับใบอนุญาต (กว.) มีความเชี่ยวชาญด้านระบบไฟฟ้า ครอบคลุมไปถึงการออกแบบระบบไฟฟ้าโรงงาน เพื่อให้การติดตั้งตรงตามมาตรฐานที่ทางสภาวิศวกรรมกำหนด
3. มาตรฐานความปลอดภัยสำหรับบุคลากรและทรัพย์สิน
อุปกรณ์ที่ใช้ติดตั้งในระบบไฟฟ้าโรงงาน ไม่ว่าจะเป็นสายไฟตู้ MDB หม้อแปลงไฟฟ้า เครื่องจักร หรือแม้แต่การต่อสายดิน ทุกอย่างต้องเป็นไปตามมาตรฐานความปลอดภัย โดยบริษัทรับเหมางานระบบไฟฟ้าที่ใช้บริการ ควรที่จะติดตั้งอุปกรณ์ไฟฟ้าที่ได้คุณภาพ ผ่านมาตรฐาน มอก. และIEC Standard เพื่อให้มั่นใจว่าจะมีความปลอดภัยในระหว่างการใช้งาน รวมถึงลดความเสี่ยงไฟฟ้าลัดวงจร หรือไฟรั่ว ที่อาจก่อให้เกิดความเสียหายต่อทรัพย์สิน พนักงาน บุคลากร หรือแม้แต่พื้นที่โดยรอบด้วยเช่นกัน
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม :IEC Standard คืออะไร? ทำไมอุปกรณ์ไฟฟ้าในโรงงานต้องได้มาตรฐานนี้
องค์ประกอบสำคัญของระบบไฟฟ้าแรงสูงที่ได้มาตรฐาน
ทราบเรื่อง 3 มาตรฐานหลักในการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูงกันไปแล้ว ถัดมาเราลองมาดูองค์ประกอบที่สำคัญในระบบไฟฟ้าที่ได้มาตรฐานกันว่าจะมีอะไรบ้าง
สถานีไฟฟ้าย่อย (Substation) และหม้อแปลงไฟฟ้า (Transformer)
สถานีไฟฟ้าย่อย และหม้อแปลงไฟฟ้า เป็นอุปกรณ์สำคัญที่ทำหน้าที่แปลงแรงดันไฟฟ้าให้เหมาะสมกับปริมาณการใช้งาน และโหลดไฟฟ้า โดยจะต้องแปลงแรงดันก่อนที่จะจ่ายกระแสไฟฟ้าไปยังอุปกรณ์ต่าง ๆ ในระดับที่ถูกต้องเหมาะสม ดังนั้น หากใช้อุปกรณ์ที่ไม่ได้มาตรฐาน อาจทำให้การจ่ายแรงดันไฟฟ้าผิดพลาด และก่อให้เกิดเป็นความร้อนสะสมซึ่งอาจทำให้ระบบไฟฟ้ามีปัญหาในภายหลัง หรือร้ายแรงที่สุดคือเกิดเป็นประกายไฟได้
แผงสวิตช์ควบคุม (Switchgear) และตู้ MDB
แผงสวิตช์ควบคุม (Switchgear) และตู้ MDB เป็นอุปกรณ์ที่ทำหน้าที่ในการควบคุมระบบไฟฟ้าองค์รวมภายในโรงงาน ซึ่งเปรียบเสมือนมันสมองของระบบไฟฟ้า ทำหน้าที่รับและจ่ายกระแสไฟฟ้าในปริมาณที่เหมาะสม เพื่อให้การจ่ายไฟฟ้าเป็นไปอย่างเสถียรภาพปลอดภัย จึงควรเลือกใช้ตู้ MDB ที่มีคุณภาพ ได้มาตรฐานรับรองอย่างถูกต้อง
ระบบป้องกัน (Protection System) และการต่อลงดิน (Grounding)
อีกหนึ่งสิ่งที่สำคัญในการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสุงในโรงงาน คือระบบป้องกัน ซึ่งรวมไปถึงการติดตั้งสายดินด้วย โดยหากการติดตั้งระบบป้องกันและมีการใช้อุปกรณ์ได้มาตรฐาน ก็จะทำให้ความสามารถในการตัดการทำงานหากวงจรไฟฟ้าเกิดความผิดปกตินั้นแม่นยำมากขึ้น ช่วยลดความเสี่ยงเกิดความเสียหายจากระบบไฟฟ้า และเข้าทำการแก้ไขได้ทันเวลา
เสริมความปลอดภัยด้วยบริการดูแล บำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแรงสูงเชิงป้องกัน (PM) กับณัฐภูมิ วิศวกรรม
ความเสี่ยงเมื่อเลือกผู้รับเหมางานระบบไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน
หากเลือกใช้ผู้รับเหมางานระบบไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน ก็อาจเป็นไปได้ว่างานติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูงที่ได้ก็จะไม่ตรงตามมาตรฐานตามไปด้วย ซึ่งจะส่งผลกระทบทั้งในด้านภาพลักษณ์ธุรกิจและความปลอดภัย ดังนี้
- ถูกปรับจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยเฉพาะเมื่อทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้าและพบว่าไม่เป็นไปตามมาตรฐานที่กำหนด
- เสี่ยงต่อการเกิดอุบัติเหตุ เช่น เกิดเพลิงไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจร ไฟรั่ว หรือไฟช็อต
- อาจไม่ได้รับอนุญาตให้เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าส่วนกลาง เพราะแหล่งกำเนิดไฟฟ้าหลัก ๆ นั้นมาจากการไฟฟ้า หากโรงงานติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูงที่ไม่ได้มาตรฐาน การไฟฟ้าก็อาจปฏิเสธที่จะจ่ายไฟฟ้าให้ได้ และแน่นอนว่าจะส่งผลกระทบต่อธุรกิจ ทั้งในด้านการผลิต และรายได้
- ต้องซ่อมบำรุงบ่อยครั้ง เกิดเป็นต้นทุนแฝงที่ลุกลาม และอาจทำให้ธุรกิจไม่มีงบดุลได้
ให้ ณัฐภูมิ วิศวกรรม เป็นพันธมิตรที่พร้อมให้คำปรึกษา เรื่องการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูง
การติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูงต้องอาศัยทั้งความเชี่ยวชาญของทีมวิศวกรมาตรฐานของอุปกรณ์ต่าง ๆ และแผนการออกแบบระบบไฟฟ้าที่ครอบคลุม ผู้ให้บริการด้านระบบไฟฟ้าจึงมีบทบาทอย่างมากในส่วนนี้ โดยณัฐภูมิ วิศวกรรม เป็นบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญในการจัดการทุกขั้นตอนเรื่องระบบไฟฟ้า ตั้งแต่การออกแบบแผงวงจรไฟฟ้า การเลือกใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน ไปจนถึงการดำเนินการด้านเอกสารและกฎหมายต่าง ๆ อย่างครบวงจร คุณสามารถมั่นใจได้ว่า หากใช้บริการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูงกับทางเรา ทุกอย่างจะเป็นไปตามมาตรฐานและถูกต้องตามกฎหมาย พร้อมระบบไฟฟ้าในโรงงานที่เสถียร มีความปลอดภัย และใช้งานได้อย่างยั่งยืน
การลงทุนที่ยั่งยืน เริ่มต้นจากการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูงที่ปลอดภัย
เพราะการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูงในโรงงาน ถือเป็นหัวใจที่จะทำให้ธุรกิจดำเนินไปได้อย่างราบรื่น เสถียร และมีประสิทธิภาพสูงสุด ด้วยเหตุนี้ ผู้ประกอบการจึงควรใส่ใจถึงมาตรฐานการติดตั้งระบบไฟฟ้าในโรงงาน รวมถึงมีการตรวจสอบระบบไฟฟ้าประจำปีทุกครั้งเมื่อครบกำหนด เพื่อให้ธุรกิจของคุณมีความปลอดภัยอย่างยั่งยืน
ณัฐภูมิ วิศวกรรม ยินดีให้บริการด้านระบบไฟฟ้าแบบครบวงจร โดยทีมช่างวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ ได้รับใบอนุญาตการประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง มีประสบการณ์ด้านระบบไฟฟ้า พร้อมเป็นพันธมิตรด้านระบบไฟฟ้า เคียงคู่กับธุรกิจของคุณ
ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ติดต่อเรา
หรือโทร 098-291-4911 และแอดไลน์@npeng
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับมาตรฐานการติดตั้งไฟฟ้าแรงสูง
1. มาตรฐานการติดตั้งไฟฟ้าแรงสูง จำเป็นสำหรับโรงงานขนาดเล็กหรือไม่?
จำเป็นเช่นกัน เพราะไม่ว่าจะเป็นโรงงานขนาดเล็กหรือขนาดใหญ่ มาตรฐานการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูงมีความสำคัญเท่ากัน เพราะปัญหาที่เกิดจากระบบไฟฟ้าที่ไม่ได้มาตรฐาน เช่น ไฟฟ้าลัดวงจร, ไฟไหม้, หรือไฟดูด ก็สามารถก่อให้เกิดอันตรายร้ายแรงได้ไม่แพ้กัน ดังนั้น การทำตามมาตรฐานจึงเป็นการป้องกันความเสี่ยง และสร้างความปลอดภัยให้กับทุกคนในโรงงาน
2. มาตรฐานการติดตั้งไฟฟ้าแรงสูงของไทย อ้างอิงจากมาตรฐานสากลหรือไม่?
มีการอ้างอิงจากมาตรฐานสากล โดยมาตรฐานการติดตั้งไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย เช่นมาตรฐานการติดตั้งทางไฟฟ้าสำหรับประเทศไทย หรือมาตรฐานของการไฟฟ้านครหลวง (กฟน.) และการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ล้วนมีการอ้างอิงและปรับใช้จากมาตรฐานสากลอย่างมาตรฐาน IEC (International Electrotechnical Commission Standard) เพื่อให้มั่นใจว่าการติดตั้งระบบไฟฟ้าในประเทศมีความปลอดภัย และมีมาตรฐานเทียบเท่าสากล
3. ควรพิจารณาอะไรบ้างในการเลือกผู้ให้บริการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูง?
การพิจารณาเลือกผู้ให้บริการติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูง ควรเลือกจากปัจจัยดังต่อไปนี้
- ใบอนุญาตและการรับรอง : ผู้รับเหมาและวิศวกรที่ดูแลโครงการควรมีใบประกอบวิชาชีพอย่างถูกต้อง
- ประสบการณ์และความเชี่ยวชาญ : ตรวจสอบประวัติการทำงานและผลงานที่ผ่านมา โดยเฉพาะโครงการที่ใกล้เคียงกับประเภทของโรงงาน
- การดำเนินงานตามมาตรฐาน : ผู้รับเหมาต้องเข้าใจและปฏิบัติตามมาตรฐานการติดตั้งอย่างเคร่งครัด รวมถึงใช้อุปกรณ์ที่ได้มาตรฐาน
- การรับประกัน และบริการหลังการขาย : ควรมีการรับประกันงานติดตั้ง พร้อมให้คำปรึกษาหากเกิดปัญหาในอนาคต
4. ควรตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแรงสูงบ่อยแค่ไหน?
ควรมีการตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแรงสูงอย่างสม่ำเสมอตามระยะเวลาที่กำหนด โดยทั่วไปแล้ว แนะนำให้มีการตรวจสอบอย่างน้อยปีละ 1 ครั้ง เพื่อตรวจหาจุดบกพร่องที่อาจเกิดขึ้น ทำความสะอาดอุปกรณ์ต่าง ๆ และทดสอบการทำงานของระบบ ซึ่งการบำรุงรักษาเชิงป้องกันนี้จะช่วยยืดอายุการใช้งานของอุปกรณ์ และลดความเสี่ยงในการเกิดอุบัติเหตุจากความผิดปกติภายในระบบไฟฟ้าได้เป็นอย่างดี
อย่างไรก็ตาม การตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแรงสูง ควรทำโดยวิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่ได้รับใบอนุญาตรับรองเท่านั้น