ทำไมถึงต้องเลือก EV Charger จากหลายปัจจัยอย่างรอบด้าน?
อาจมีคนที่คิดว่า แค่พิจารณาจากราคาEV Charger แต่ละแบรนด์ก็เพียงพอแล้ว แต่ในความเป็นจริงราคาไม่ได้เป็นตัวบ่งบอกถึงคุณภาพของเครื่องชาร์จรถยนต์ เนื่องจาก EV Charger ถือเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า ซึ่งต้องมีการรับรองมาตรฐานและมีการผลิตอย่างพิถีพิถันเพื่อความปลอดภัย การเลือก EV Charger ที่ราคาถูกเพียงอย่างเดียว หรือราคาสูงแต่ไม่สามารถตรวจสอบที่มาได้ อาจนำมาสู่ปัญหาต่าง ๆ ในภายหลังได้ ทั้งเรื่องความปลอดภัยในการใช้งาน ประสิทธิภาพที่ไม่คุ้มราคา หรือการรับประกันหลังการขายที่ไม่ครอบคลุม เป็นต้น

รู้จักประเภทของ EV Charger เพื่อเลือกให้เหมาะกับความต้องการ
ในการเลือก EV Charger เพื่อนำไปติดตั้งที่บ้านหรือธุรกิจนั้น จะต้องเลือกจากประเภทของ EV Charger เพราะส่งผลต่อโดยตรงต่อความเหมาะสมในการใช้งาน โดย EV Charger มีอยู่2 ประเภท ได้แก่AC Charger และDC Fast Charger ซึ่งแต่ละประเภทจะมีรายละเอียดดังต่อไปนี้
1. AC Charger ตัวเลือกพื้นฐานสำหรับติดตั้งที่บ้านและสำนักงาน
EV Charger แบบ AC คือแท่นชาร์จที่ใช้แรงดันไฟฟ้ากระแสสลับ ซึ่งจะใช้เวลาชาร์จจาก 0-100% ประมาณ 4-5 ชั่วโมง จึงเหมาะสำหรับติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน ห้างสรรพสินค้า คอนโดมิเนียม หรือสำนักงานที่สามารถจอดเป็นระยะเวลานานได้ มี 2 Level แต่ปัจจุบันนิยมใช้แค่ AC Charger Level 2
2. DC Fast Charger สำหรับติดตั้งสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสาธารณะที่ต้องการความรวดเร็ว
EV Charger แบบ DC Fast Charger เป็นแท่นชาร์จที่ใช้ระบบไฟฟ้ากระแสตรง ทำให้สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้รวดเร็ว ใช้เวลาชาร์จจาก 0-100% เพียงแค่ประมาณ45 นาทีเท่านั้น จึงเหมาะสำหรับติดตั้งในสถานีชาร์จรถไฟฟ้าสาธารณะที่ผู้คนมักจะแวะมาใช้บริการในช่วงเวลาเร่งด่วนนั่นเอง
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม :ไขข้อสงสัย การชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (Charging Mode) มีกี่แบบ?

5 ปัจจัยสำคัญในการเลือก EV Charger สำหรับธุรกิจและที่อยู่อาศัย
หากต้องการติดตั้งเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านหรือธุรกิจ ในการเลือก EV Charger ควรคำนึงถึงปัจจัยทั้ง5 ประการ ดังนี้
1. กำลังไฟฟ้า (Power Rating) และความเร็วในการชาร์จ
EV Charger แต่ละชนิดจะมีการกำหนดกำลังไฟฟ้ามาเพื่อให้ตอบโจทย์กับการใช้งานแต่ละรูปแบบ โดยการเลือก EV Charger ให้เหมาะสมนั้นก็ควรพิจารณาถึงการนำมาใช้งาน เช่น ถ้าติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน การเลือกกำลังไฟ 7.4 kW ก็เพียงพอ แต่ถ้าต้องการติดตั้งในเชิงพาณิชย์ กำลังไฟที่สูงกว่าก็จะตอบโจทย์มากกว่า
2. รูปแบบการใช้งาน (Residential vs. Commercial)
การพิจารณาจากรูปแบบการใช้งานจะช่วยให้เลือก EV Charger ได้เหมาะสมกับความต้องการมากขึ้น โดยหากต้องการใช้งานในที่พักอาศัย เช่น บ้าน คอนโดมิเนียม หอพัก หรือในสถานที่ที่สามารถจอดรถได้เป็นระยะเวลานานอย่างห้างสรรพสินค้า สำนักงาน หรือร้านอาหาร การเลือก EV Charger แบบ AC Charger ก็จะตอบโจทย์มากกว่า เพราะสามารถชาร์จทิ้งไว้ได้ขณะที่พักผ่อน ทำงาน หรือใช้เวลาเดินในห้างหลายชั่วโมง ซึ่งระบบไฟฟ้าแบบ AC นั้นเหมาะกับระบบไฟฟ้าภายในบ้านมากกว่าด้วย
แต่ถ้าหากต้องการใช้เชิงพาณิชย์ เช่น ติดตั้งในธุรกิจสถานีชาร์จรถไฟฟ้าในที่สาธารณะ ซึ่งมีจำนวนผู้ใช้งานมากกว่า การเลือกแบบ DC Charger ก็จะตอบโจทย์ในด้านความรวดเร็ว และการรองรับปริมาณผู้ใช้บริการได้มากกว่านั่นเอง
3. ระบบความปลอดภัยและมาตรฐานของ EV Charger
มาตรฐานความปลอดภัยของ EV Charger ควรเป็นไปตามมาตรฐานสากล เช่น ISO หรือIEC Standard เพื่อให้ในระหว่างการใช้งานมีความปลอดภัย เพราะการใช้งานระบบไฟฟ้าส่วนใหญ่มักจะเกิดความร้อนที่บริเวณใดบริเวณหนึ่ง หากเลือก EV Charger ที่ไม่ได้มาตรฐาน เมื่อความร้อนสะสมในปริมาณมาก ก็อาจส่งผลให้เกิดการ Overheating และเกิดเป็นประกายไฟที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ใช้งานได้
4. ฟังก์ชันการจัดการ (Smart Features) และการชำระเงิน
ไม่ว่าจะติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน หรือติดตั้งเพื่อธุรกิจในเชิงพาณิชย์ฟังก์ชัน ก็เป็นเรื่องสำคัญในการพิจารณาเลือก EV Charger เช่นกัน เพราะฟังก์ชันการจัดการจะช่วยให้สามารถบริหารการชาร์จรถยนต์ได้ ทำให้รู้ว่าใช้ปริมาณไฟฟ้าไปเท่าไหร่ และใช้เวลานานแค่ไหนถึงจะชาร์จเสร็จเรียบร้อย โดยไม่ต้องคอยไปเช็กที่เครื่องโดยตรง
นอกจากนี้ หากเลือก EV Charger ไปใช้ในธุรกิจ ควรเลือกที่มีฟังก์ชันที่สามารถจัดการเรื่องคิวการใช้งาน และระบบชำระเงินที่สะดวก รองรับผู้ใช้งานได้อย่างหลากหลาย ไม่ว่าจะเป็นระบบชำระเงินแบบพร้อมเพย์ การโอนผ่านบัญชีธนาคาร หรือการตัดผ่านบัตรเดบิต/บัตรเครดิต เป็นต้น
5. บริการติดตั้ง EV Charger และบริการหลังการขาย
การติดตั้ง EV Charger ควรทำโดยทีมช่างที่มีความเชี่ยวชาญ และมีความรู้ด้าน EV Charger เพื่อให้การติดตั้งเป็นไปตามมาตรฐานอย่างถูกต้อง และมั่นใจได้ว่าจะใช้งานได้อย่างปลอดภัย รวมถึงมีบริการหลังการขายที่ดี เพื่อที่จะได้วางใจได้ว่าหากมีปัญหาใด ๆ จะได้รับการแก้ไขอย่างเหมาะสม

ณัฐภูมิ วิศวกรรม ผู้เชี่ยวชาญด้านโซลูชัน EV Charger ครบวงจร
หากคุณกำลังอยู่ในขั้นตอนการพิจารณาเลือก EV Charger ให้เหมาะสมกับงบประมาณ มีความคุ้มค่า และใช้งานได้เต็มประสิทธิภาพ เหมาะแก่การลงทุนทั้งติดตั้งที่บ้านและธุรกิจ สามารถปรึกษากับทางณัฐภูมิ วิศวกรรม ได้ เพราะเราคือผู้เชี่ยวชาญที่ให้บริการด้านการติดตั้ง EV Charger แบบครบวงจร ยินดีให้คำแนะนำตั้งแต่การเลือกประเภทเครื่องชาร์จที่เหมาะสม การวางระบบไฟฟ้าให้รองรับ EV Charger โดยไม่กระทบกับระบบไฟฟ้าเดิมภายในอาคาร การติดตั้งและบริการหลังการขาย ครบครันในที่เดียว

เลือก EV Charger ให้คุ้มค่า ได้ประสิทธิภาพ เลือกติดตั้งกับ ณัฐภูมิ วิศวกรรม
และนี่คือข้อควรรู้ทั้งหมดเกี่ยวกับการเลือก EV Charger เพื่อติดตั้งที่บ้านและธุรกิจ โดยควรคำนึงถึงประเภทของเครื่องชาร์จที่เหมาะสม และปัจจัยสำคัญต่าง ๆ ที่ทางเราได้แนะนำไป ไม่ว่าจะเป็นขนาดกำลังไฟฟ้า รูปแบบการใช้งาน ความปลอดภัย ฟังก์ชัน และบริการติดตั้งจากบริษัทติดตั้ง EV Charger ที่เชื่อถือได้
ณัฐภูมิ วิศวกรรม เราคือผู้ให้บริการด้านระบบไฟฟ้าที่มีความเชี่ยวชาญด้านโซลูชัน EV Charger แบบครบวงจร ให้บริการติดตั้ง EV Charger ด้วยอุปกรณ์จากแบรนด์คุณภาพระดับสากล Wallbox ซึ่งเป็นผู้นำในเรื่องเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่ได้รับการยอมรับอย่างแพร่หลาย มาพร้อมฟังก์ชันที่ตอบโจทย์ทุกรูปแบบการใช้งาน ให้การลงทุนของคุณคุ้มค่า ทั้งประสิทธิภาพของ EV Charger และคุณภาพในการติดตั้งจากทางเรา ณัฐภูมิ วิศวกรรม
ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ติดต่อเรา
หรือโทร 098-291-4911 และแอดไลน์@npeng
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการเลือก EV Charger
1. EV Charger แต่ละประเภทแตกต่างกันอย่างไร?
โดยทั่วไป EV Charger แบ่งออกเป็น 2 ประเภท ดังนี้
- AC Charger (Level 1 & 2) : เป็นเครื่องชาร์จแบบกระแสสลับ เหมาะสำหรับใช้ตามบ้านพักอาศัยและอาคารทั่วไป โดยLevel 1 ชาร์จด้วยปลั๊กไฟบ้านธรรมดา ใช้เวลาชาร์จนาน ส่วนLevel 2 เป็นแบบที่นิยมใช้กันมากที่สุดในปัจจุบัน ชาร์จได้เร็วกว่า และใช้ได้กับไฟฟ้าขนาด 220V ซึ่งเป็นแรงดันไฟฟ้าในครัวเรือนทั่วไปในประเทศไทย
- DC Charger (Level 3) : เป็นเครื่องชาร์จแบบกระแสตรง เหมาะสำหรับใช้ในสถานีชาร์จสาธารณะ ชาร์จได้รวดเร็ว แต่มีราคาสูง และมีการติดตั้งที่ซับซ้อน
2. EV Charger สำหรับใช้ในบ้านกับธุรกิจ แตกต่างกันอย่างไร?
ความแตกต่างของ EV Charger ที่ใช้ในบ้านกับธุรกิจคือกำลังไฟ และคุณสมบัติ
- EV Charger สำหรับที่อยู่อาศัย : มักจะใช้เป็น AC Charger (Level 2) เหมาะกับการชาร์จค้างคืน และมีขนาดกะทัดรัด
- EV Charger สำหรับธุรกิจ : มักจะใช้ DC Charger (Level 3) เพื่อให้บริการแก่ลูกค้าที่ต้องการความเร่งด่วน แต่ต้องมีคุณสมบัติเพิ่มเติมเพื่อความสะดวกในการบริหารจัดการ เช่น ระบบการจัดการผู้ใช้, การเรียกเก็บเงิน และระบบควบคุมจากส่วนกลาง เป็นต้น
3. จะรู้ได้อย่างไรว่ารถ EV ของเราเข้ากันได้กับ EV Charger ทุกแบรนด์?
โดยส่วนใหญ่ รถ EV ในปัจจุบันจะใช้หัวชาร์จแบบมาตรฐาน ซึ่งสามารถใช้ร่วมกับ EV Charger ที่รองรับมาตรฐานนั้น ๆ ได้ อย่างไรก็ตาม ควรตรวจสอบประเภทหัวชาร์จ ที่รถยนต์ของคุณใช้ และเลือก EV Charger ที่มีหัวชาร์จตรงกัน เพื่อให้สามารถใช้งานได้อย่างราบรื่น
4. การติดตั้ง EV Charger ที่บ้านต้องขออนุญาตหรือไม่?
หากเป็นการติดตั้ง EV Charger ที่มีขนาดกำลังไฟฟ้าไม่เกิน 1,000 โวลต์ และไม่ส่งผลกระทบต่อระบบการไฟฟ้าไม่จำเป็นต้องขออนุญาต
