
ธุรกิจประเภทไหนควรติดตั้งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า?
ในความจริงแล้ว ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจรูปแบบใดก็ตามที่มีที่จอดรถ ก็สามารถติดตั้งระบบ EV Charger เพื่อเปลี่ยนพื้นที่จอดรถธรรมดา ให้กลายเป็นสถานีชาร์จรถไฟฟ้าได้ แต่ธุรกิจที่ได้รับประโยชน์และเห็นผลชัดเจนที่สุด ได้แก่
- อาคารสำนักงานและโรงงานอุตสาหกรรมเพิ่มสวัสดิการที่ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์พนักงานยุคใหม่ และอำนวยความสะดวกให้คู่ค้าที่มาติดต่อ
- โรงแรมและรีสอร์ตสร้างจุดเด่นดึงดูดนักท่องเที่ยวกลุ่มที่ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ซึ่งมักเป็นกลุ่มลูกค้าที่มีกำลังซื้อสูง
- ห้างสรรพสินค้าและ Community Mall การมีที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าคือกลยุทธ์ชั้นเยี่ยมในการเพิ่มเวลาให้ลูกค้าอยู่ในพื้นที่ของคุณมากขึ้น เพราะยิ่งลูกค้าจอดรถนาน ยิ่งมีโอกาสจับจ่ายใช้สอยมากขึ้น
- ร้านอาหารและคาเฟ่ ดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการระหว่างรอชาร์จรถ
- โครงการคอนโดมิเนียมและที่พักอาศัยเพิ่มมูลค่าให้แก่อสังหาริมทรัพย์ และตอบสนองความต้องการของผู้อยู่อาศัยยุคใหม่
อ่านบทความที่น่าสนใจ :ติดตั้ง EV Charger ในธุรกิจ ข้อควรรู้และวิธีเพิ่มรายได้สำหรับผู้ประกอบการ
เลือกที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าอย่างไรให้เหมาะกับธุรกิจ?
การเลือก EV Charger ให้เหมาะสมกับพฤติกรรมของลูกค้าเป็นหัวใจสำคัญ โดยแบ่งออกเป็น 2 ประเภทหลัก ๆ ดังนี้
1. AC Charger สำหรับธุรกิจที่ลูกค้ามักจอดรถเป็นเวลานาน
เป็นการชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสสลับ ชาร์จได้สูงสุดที่ 22 กิโลวัตต์ ใช้เวลาชาร์จประมาณ 4-8 ชั่วโมงจนเต็ม จึงเหมาะสำหรับสถานที่ที่ลูกค้าจอดรถเป็นระยะเวลานาน เช่น โรงแรม คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน และที่พักอาศัย
โดยมีข้อดี คือ ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง EV Charger ราคาไม่สูงมากนัก ขนาดกะทัดรัด และบำรุงรักษาได้ง่าย
2. DC Charger สำหรับธุรกิจที่ลูกค้ามักจอดรถในช่วงสั้น ๆ
เป็นการชาร์จแบบไฟฟ้ากระแสตรงที่รวดเร็วมาก ชาร์จไฟได้สูงสุดที่ 250 กิโลวัตต์ ใช้เวลาเพียง 20-45 นาที ก็สามารถชาร์จแบตเตอรี่ได้ถึง 80% จึงเหมาะสำหรับสถานีบริการน้ำมัน จุดพักรถบนทางด่วน ห้างสรรพสินค้า หรือซูเปอร์มาร์เก็ต ที่ลูกค้าต้องการความรวดเร็ว
โดยมีข้อดี คือ ชาร์จเร็วมาก สามารถดึงดูดผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าได้ทุกประเภท แต่มีต้นทุนการลงทุนสูง รวมถึงต้องการพื้นที่ติดตั้งและระบบไฟฟ้ากำลังสูงด้วย
ดังนั้น การติดตั้ง AC Charger หลาย ๆ จุด สำหรับธุรกิจที่ลูกค้าใช้เวลาอยู่นานอาจคุ้มค่ากว่า ในขณะที่ DC Fast Charger จะเหมาะกับธุรกิจที่ต้องการชูจุดเด่นด้านความรวดเร็วและรองรับลูกค้าที่หมุนเวียนตลอดวันมากกว่า
อ่านบทความที่น่าสนใจ :ข้อควรรู้ก่อนติดตั้ง EV Charger ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (Charging Mode) มีกี่แบบ?

โมเดลธุรกิจลงทุนสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่น่าสนใจ
เมื่อเลือกประเภทเครื่องชาร์จได้แล้ว ต่อมาคือการพิจารณาโมเดลธุรกิจที่เหมาะสม เพื่อให้การลงทุนเกิดรายได้หรือคุณค่ากลับคืนอย่างคุ้มค่า โดยสามารถเลือกแนวทางหลัก ๆ ได้ดังนี้
1. สร้างรายได้โดยตรง
รูปแบบมาตรฐานที่ง่ายที่สุดในการสร้างรายได้โดยตรงจากการให้บริการชาร์จไฟฟ้า คือการเก็บค่าบริการชาร์จไฟฟ้าต่อหน่วยผู้ที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าจะชำระค่าบริการตามปริมาณพลังงานไฟฟ้าที่ใช้ไป (บาท/kWh) หรือตามระยะเวลาที่ชาร์จ (บาท/นาที)
ข้อดีของรูปแบบนี้คือ มีความโปร่งใสผู้ใช้ได้จ่ายค่าบริการตามจริง สามารถกำหนดราคาเพื่อสร้างผลกำไรได้ทันที รวมถึงปรับเปลี่ยนราคาได้ตามต้นทุนและกลยุทธ์ทางการตลาด
2. ให้บริการฟรีเพื่อดึงดูดลูกค้า
เหมาะสำหรับธุรกิจที่ต้องการใช้ที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าเป็นเครื่องมือทางการตลาดเพื่อดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการธุรกิจหลัก โดยเฉพาะธุรกิจลูกค้าใช้บริการค่อนข้างนาน เช่น โรงแรม หรือห้างสรรพสินค้า
แม้จะไม่ได้เก็บค่าชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าโดยตรง แต่จะได้ประโยชน์จากยอดขายหลักของธุรกิจที่เพิ่มขึ้นเนื่องจากลูกค้าใช้เวลาอยู่ในพื้นที่นานขึ้น มีโอกาสซื้อสินค้าหรือบริการอื่น ๆ มากขึ้น และยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีว่าธุรกิจมีความทันสมัย ใส่ใจสิ่งแวดล้อม
3. ระบบสมาชิก
เหมาะสำหรับธุรกิจที่มีกลุ่มผู้ใช้งานประจำ โดยคิดค่าบริการเป็นรายเดือนหรือรายปีสำหรับผู้ที่เป็นสมาชิก ซึ่งอาจชาร์จได้ไม่จำกัด หรือได้รับอัตราค่าบริการที่ถูกกว่า เช่น คอนโดมิเนียม อาคารสำนักงาน
การทำระบบสมาชิกทำให้มีรายได้ประจำที่คาดการณ์ได้ และสร้าง Royalty ให้ผู้ใช้งานประจำได้รับสิทธิพิเศษและรู้สึกผูกพัน
4. ร่วมมือกับผู้ให้บริการ
หากไม่ต้องการลงทุนเองทั้งหมดสามารถร่วมมือกับบริษัทผู้ให้บริการสถานีชาร์จได้โดยเจ้าของสถานที่จะได้รับส่วนแบ่งรายได้ตามสัดส่วนที่ตกลงกัน เป็นทางเลือกที่ช่วยลดความเสี่ยงด้านการลงทุน และไม่ต้องกังวลเรื่องการบริหารจัดการระบบ

ข้อควรระวังก่อนติดตั้งระบบ EV Charger
เพื่อให้ปลอดภัยและคุ้มค่าต่อการลงทุน โดยเฉพาะผู้ที่กำลังมองหาแนวทางการลงทุนสถานีชาร์จรถไฟฟ้า หรือกำลังหาบริษัทรับติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ควรพิจารณาประเด็นสำคัญเหล่านี้อย่างรอบคอบ
1. กำลังไฟฟ้าของสถานที่
ก่อนติดตั้งควรตรวจสอบว่า ระบบไฟฟ้าเดิมสามารถรองรับกำลังของเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้หรือไม่ หากไม่เพียงพอ อาจต้องขอขยายมิเตอร์ไฟฟ้าหรือติดตั้งหม้อแปลงเพิ่ม ซึ่งควรให้วิศวกรไฟฟ้าที่เชี่ยวชาญการติดตั้ง EV Charger Stationเป็นผู้ประเมินและออกแบบระบบ
2. ตำแหน่งติดตั้ง
ควรเลือกตำแหน่งที่ปลอดภัย เข้าถึงง่าย มีแสงสว่างเพียงพอและควรมีหลังคาเพื่อป้องกันแดด กันฝน โดยเฉพาะจุดที่มีการจอดรถบ่อย เช่น ลานจอดของคอนโด โรงแรม หรืออาคารสำนักงาน หากเป็นโครงการที่ต้องการติดตั้งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าหลายจุด ควรวางแผนระบบไฟให้เหมาะสมเพื่อป้องกันการใช้ไฟเกินโหลด
3. มาตรฐานความปลอดภัย
การติดตั้งต้องเป็นไปตามมาตรฐานของวิศวกรรมสถานแห่งประเทศไทย (วสท.) โดยต้องมีระบบสายดินและอุปกรณ์ป้องกันไฟรั่ว (RCBO) ที่ออกแบบมาสำหรับเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าโดยเฉพาะ เพื่อให้มั่นใจในความปลอดภัยของทั้งผู้ใช้งานและระบบไฟฟ้าในอาคาร
4. การบำรุงรักษาและต้นทุน
ระบบชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าควรได้รับการตรวจสอบและบำรุงรักษาเป็นประจำ เพื่อให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพ และยืดอายุการใช้งาน
ส่วนราคาในการติดตั้ง EV Charger จะขึ้นอยู่กับประเภทของที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าและขนาดกำลังไฟฟ้าที่ต้องใช้ ซึ่งผู้ให้บริการที่รับติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้า สามารถประเมินค่าใช้จ่ายเบื้องต้นให้ได้
หากคุณกำลังวางแผนติดตั้งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า หรือมองหาผู้เชี่ยวชาญที่รับติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้า ทีมวิศวกรจากณัฐภูมิ วิศวกรรม พร้อมให้บริการออกแบบ ติดตั้ง บำรุงรักษาเครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า มั่นใจได้ในความปลอดภัย มาตรฐาน และคุณภาพของงานติดตั้งทุกขั้นตอน
ลงทุนสถานีชาร์จรถไฟฟ้าได้อย่างมั่นใจไปกับณัฐภูมิ วิศวกรรม
การติดตั้งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า นอกจากจะถือเป็นการเพิ่มสิ่งอำนวยความสะดวกให้กับผู้ใช้งานแล้ว ยังเป็นการลงทุนในโครงสร้างพื้นฐานด้านพลังงานสะอาด ที่ช่วยยกระดับภาพลักษณ์ธุรกิจและเพิ่มมูลค่าให้กับทรัพย์สินในระยะยาว ไม่ว่าจะเป็นโครงการที่พักอาศัย อาคารสำนักงาน โรงงาน หรือศูนย์การค้า
อย่างไรก็ตาม การติดตั้งระบบ EV Charger Station จำเป็นต้องได้รับการออกแบบและติดตั้งโดยทีมวิศวกรมืออาชีพ เพื่อให้มั่นใจว่าระบบมีความปลอดภัย ได้มาตรฐาน และสามารถรองรับการใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพสูงสุด
ณัฐภูมิ วิศวกรรม พร้อมเปลี่ยนพื้นที่ว่างให้กลายเป็นเครื่องสร้างรายได้ให้คุณอย่างครบวงจร ตั้งแต่ให้คำปรึกษา สำรวจหน้างาน ออกแบบระบบไฟฟ้าที่เหมาะสมกับงบประมาณและเป้าหมายธุรกิจของคุณ ไปจนถึงการติดตั้งและดูแลหลังการขาย เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าระบบ EV Charger ของคุณจะปลอดภัย ได้มาตรฐาน และสร้างผลตอบแทนสูงสุด
ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ติดต่อเรา
หรือโทร 098-291-4911 และแอดไลน์@npeng
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการติดตั้งสถานีชาร์จรถไฟฟ้า
1. ค่าใช้จ่ายในการติดตั้ง EV Charger มีราคาเท่าไหร่?
ค่าใช้จ่ายขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องชาร์จ จำนวนหัวชาร์จ ความซับซ้อนของงานติดตั้งระบบไฟฟ้า และความจำเป็นในการอัปเกรดโครงสร้างพื้นฐานทางไฟฟ้าเดิม เช่น หม้อแปลง หรือมิเตอร์ไฟฟ้า เพื่อให้ทราบราคาในการติดตั้ง EV Charger ทางที่ดีที่สุดคือ ให้ทีมวิศวกรเข้าสำรวจหน้างานเพื่อประเมินราคาที่แม่นยำ
2. การติดตั้งสถานีชาร์จใช้เวลานานแค่ไหน?
ขึ้นอยู่กับประเภทของเครื่องชาร์จ หากเป็น AC Charger ในจุดที่ไม่ซับซ้อนอาจใช้เวลาไม่กี่สัปดาห์ ส่วน DC Charger หรือโครงการขนาดใหญ่ที่ต้องมีการขออนุญาตจากการไฟฟ้าและติดตั้งหม้อแปลงใหม่ อาจใช้เวลา 1-3 เดือนขึ้นไป ขึ้นอยู่กับความพร้อมของสถานที่และกระบวนการอนุมัติต่าง ๆ
3. ต้องขอใบอนุญาตพิเศษเพื่อเปิดสถานีชาร์จรถไฟฟ้าหรือไม่?
การติดตั้งเพื่อเป็นส่วนหนึ่งของธุรกิจ ในกรณีที่ไม่ใช่ธุรกิจสถานีอัดประจุหลัก ไม่ต้องขอใบอนุญาตประกอบกิจการพลังงาน แต่การติดตั้งทั้งหมดจะต้องดำเนินการโดยผู้เชี่ยวชาญ และเป็นไปตามข้อกำหนดและมาตรฐานความปลอดภัยของการไฟฟ้าฯ
