เสาไฟฟ้าคืออะไร?
เสาไฟฟ้า คือโครงสร้างที่ใช้รองรับสายไฟฟ้าต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นสายส่งแรงต่ำ แรงสูง หรือแม้แต่สายสื่อสาร เช่น ไฟเบอร์ออปติก โดยจะติดตั้งเรียงกันเป็นระยะ ๆ เพื่อรองรับแรงดึงของสายไฟ พร้อมทั้งยึดอุปกรณ์ประกอบอื่น ๆ เช่น หม้อแปลง เบรกเกอร์ และสายดิน หัวข้อต่อไปเราจะอธิบายว่าเสาไฟฟ้ามีอะไรบ้าง
อ่านบทความที่น่าสนใจ :5 เรื่องที่ควรรู้เกี่ยวกับระบบไฟฟ้าแรงสูง
ประเภทของเสาไฟฟ้ามีอะไรบ้าง?
หนึ่งในคำถามยอดฮิตเมื่อพูดถึงระบบไฟฟ้าคือ “เสาไฟฟ้ามีอะไรบ้าง” คำตอบคือ เสาไฟฟ้าแบ่งออกได้หลายประเภทตามวัสดุและหน้าที่การใช้งาน ดังนี้
1. เสาไฟฟ้าคอนกรีตเสริมเหล็ก (RC Pole)
เสาประเภทนี้ได้รับความนิยมสูงสุดในระบบส่งไฟฟ้าแรงต่ำถึงแรงปานกลาง เช่น ที่ใช้ตามชุมชน หรือเส้นทางหลักในเมือง จุดเด่นคือราคาถูก ติดตั้งง่าย และทนต่อสภาพอากาศได้ดี
2. เสาไฟฟ้าโครงเหล็ก (Steel Pole/Truss Pole)
มักใช้กับไฟฟ้าแรงสูง หรือในพื้นที่ที่ต้องการประหยัดพื้นที่ เช่น เส้นทางรถไฟฟ้าในเมือง พื้นที่อุตสาหกรรม หรือบริเวณแออัด โครงสร้างของเหล็กสามารถออกแบบให้รับน้ำหนักได้หลากหลายรูปแบบ และแข็งแรงต่อแรงลมมากกว่าคอนกรีต
3. เสาไฟฟ้าไม้ (Pole Timber)
แม้ปัจจุบันจะไม่ค่อยใช้แล้ว แต่ในอดีตเสาไม้เคยเป็นทางเลือกต้นทุนต่ำในพื้นที่ชนบท ปัจจุบันอาจพบเห็นได้บ้างในพื้นที่ห่างไกล
4. เสา Composite หรือเสาไฟฟ้าแบบวัสดุผสม
เสาแบบใหม่นี้ทำจากวัสดุสังเคราะห์ที่มีน้ำหนักเบา เช่น ไฟเบอร์กลาสหรือพลาสติกเสริมแรง จุดเด่นคือไม่เป็นสนิม น้ำหนักเบา เหมาะกับการติดตั้งชั่วคราวหรืองานเฉพาะทาง
เปรียบเทียบเสาไฟฟ้าคอนกรีต vs เสาโครงเหล็ก
ถ้าให้ตอบว่าเสาไฟฟ้ามีอะไรบ้าง แบบไหนนิยมใช้มากที่สุด สามารถแบ่งได้เป็น เสาไฟฟ้าคอนกรีตและเสาโครงเหล็ก โดยเราจะเปรียบเทียบเสาไฟฟ้าทั้งสองชนิดนี้กัน
เสาไฟฟ้าคอนกรีตเสริมเหล็ก
ถือว่าเป็นพระเอกของระบบไฟฟ้าทั่วไป โดยเฉพาะในเขตที่อยู่อาศัย ชุมชน หรือริมถนนที่ไม่ต้องการโครงสร้างสูงมาก เสาคอนกรีตให้ความแข็งแรง ทนทานต่อแดด ฝน ลม ได้เป็นอย่างดี อีกทั้งมีอายุการใช้งานยาวนานกว่า 30 ปี และต้นทุนไม่สูงมาก ทำให้เป็นทางเลือกหลักในหลายพื้นที่
เสาโครงเหล็ก
มักจะถูกเลือกใช้ในโครงการที่ต้องรับน้ำหนักมาก หรือในพื้นที่ที่มีข้อจำกัด เช่น ในเมือง เขตอุตสาหกรรม หรือริมทางรถไฟฟ้า เพราะโครงเหล็กสามารถออกแบบได้ให้มีความสูงมาก และรองรับอุปกรณ์ไฟฟ้าหนัก ๆ ได้อย่างมั่นคง จุดเด่นของเสาเหล็กคือความยืดหยุ่นในการออกแบบ เช่น ทำให้โครงสร้างดูโปร่งบาง มีดีไซน์เฉพาะ และสามารถติดตั้งได้รวดเร็วในบางรูปแบบ
หากจะตอบให้ชัดว่าควรเลือกใช้งานแบบไหน ต้องดูลักษณะงานว่าใช้ไฟฟ้าแรงต่ำหรือแรงสูง ต้องการเสาไฟฟ้าสูงกี่เมตร ขนาดเสาไฟฟ้าที่เหมาะสมคือเท่าไร และโครงการอยู่ในสภาพแวดล้อมแบบไหน
- หากอยู่ในพื้นที่ทั่วไป ไม่ได้มีข้อจำกัดเรื่องพื้นที่ เสาคอนกรีตอาจเป็นคำตอบที่ง่ายและคุ้มค่า
- แต่หากโครงการอยู่ในเมือง หรือเป็นระบบไฟแรงสูง เสาเหล็กคือคำตอบที่ตอบโจทย์ทั้งด้านความยืดหยุ่นและรองรับน้ำหนักได้มากกว่า
เสาไฟแรงต่ำ และเสาไฟแรงสูง ต่างกันยังไง?
เมื่อเข้าใจแล้วว่าเสาไฟฟ้ามีอะไรบ้าง ลำดับต่อไปต้องทำความเข้าใจ ว่าเสาไฟแรงต่ำและเสาไฟแรงสูง มีความแตกต่างกัน ดังนี้
- เสาไฟแรงต่ำ (Low Voltage Pole)มักมีความสูง 8-10 เมตร ใช้รองรับสายไฟฟ้าแรงต่ำสำหรับบ้านเรือนทั่วไป เช่น 220V หรือ 380V
- เสาไฟแรงสูง (High Voltage Pole) มีความสูงตั้งแต่ 12 เมตรขึ้นไป รองรับสายส่งพลังงานไฟฟ้าที่มีแรงดันสูงมาก เช่น 115kV ขึ้นไป เหมาะกับงานส่งพลังงานจากแหล่งผลิตไปยังเมืองหรือโรงงานใหญ่ ๆ
ขนาดเสาไฟฟ้า และความสูง
โดยทั่วไป ขนาดเสาไฟฟ้า จะอ้างอิงจากความสูงและความสามารถในการรับน้ำหนัก เช่น
- เสาคอนกรีตขนาดมาตรฐาน: 8, 9, 10, 12 เมตร
- เสาเหล็กอาจออกแบบความสูงเฉพาะ เช่น 15-25 เมตรหรือสูงกว่านั้น
คำถามที่หลายคนอยากรู้คือ เสาไฟฟ้าสูงกี่เมตร? คำตอบคือขึ้นอยู่กับประเภทของสายไฟที่ติดตั้ง เสาแรงต่ำอยู่ที่ประมาณ 8-10 เมตร เสาแรงสูงอยู่ที่ 12-20 เมตรขึ้นไป และเสาพิเศษอาจสูงได้ถึง 30 เมตรหรือมากกว่านั้น
ทําไมเสาไฟฟ้าที่เป็นโลหะ จึงต้องมีแถบโลหะแบนๆ ต่อจากโคนเสาลงไปที่พื้นดิน?
ใครที่เคยเห็นแถบโลหะยาว ๆ ติดอยู่ข้างเสาไฟฟ้าโลหะ และสงสัยว่ามันคืออะไร คำตอบคือ “สายดิน” หรือ Grounding Strap ซึ่งมีหน้าที่ช่วยระบายกระแสไฟฟ้ารั่วหรือฟ้าผ่าลงสู่พื้นดินเพื่อความปลอดภัยของระบบ โดยเฉพาะเสาเหล็กซึ่งนำไฟฟ้าได้ดี จึงจำเป็นต้องมีระบบป้องกันไฟฟ้าดูดหรือไฟช็อตหากเกิดความผิดปกติ
อ่านบทความที่น่าสนใจ :สายดิน คืออะไร?
วางใจระบบไฟโรงงานครบวงจร! ติดตั้งไฟฟ้าแรงสูง แรงต่ำ โดยทีมมืออาชีพมากประสบการณ์ 25 ปี เลือก ณัฐภูมิ วิศวกรรม
ออกแบบและติดตั้งระบบไฟฟ้าแรงสูงแรงต่ำ สำหรับโรงงาน อาคาร และโครงการทุกประเภท โดยทีมวิศวกรมืออาชีพจากณัฐภูมิ วิศวกรรม ด้วยประสบการณ์กว่า 25 ปี เราพร้อมดูแลครบวงจร ตั้งแต่สำรวจ ออกแบบ ติดตั้ง จนถึงบำรุงรักษา มั่นใจได้ในคุณภาพ ความปลอดภัย และมาตรฐานวิศวกรรม พร้อมให้คำปรึกษาและออกแบบระบบให้เหมาะสมกับธุรกิจทุกขั้นตอน
การบริการของเราครอบคลุม
- ออกแบบระบบไฟ
- เดินสายแรงสูง-แรงต่ำ
- ติดตั้งตู้ MDB (Main Distribution Board)
สนใจติดตั้งระบบไฟฟ้า หรือ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อเรา หรือโทร 098-291-4911 และแอดไลน์@npeng