
แบตเตอรี่โซล่าเซลล์ไม่ใช่แค่อุปกรณ์สำรองไฟอีกต่อไป
หากคุณเป็นหนึ่งในผู้ที่มองหาประสิทธิภาพสูงสุดและผลตอบแทนที่ยั่งยืน การลงทุนกับแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ ถือเป็นทางเลือกที่ชาญฉลาด เพราะนอกจากบทบาทสำคัญในการสำรองพลังงานแล้ว แบตเตอรี่โซล่าเซลล์ ยังให้ประโยชน์ที่เหนือกว่านั้นในฐานะเครื่องมือเชิงกลยุทธ์ เช่น
เครื่องมือรักษาความต่อเนื่องทางธุรกิจ
ในภาคอุตสาหกรรม ไฟฟ้าดับคือหายนะที่นำไปสู่ความเสียหายมหาศาล ทั้งกระบวนการผลิตที่หยุดชะงัก การสูญเสียวัตถุดิบ การเสียหายของเครื่องจักร การผิดนัดส่งมอบ ไปจนถึงการเสียโอกาสทางธุรกิจ
แต่แบตเตอรี่โซลาร์รูฟซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของระบบโซล่าเซลล์ Hybrid ทำหน้าที่เป็นแหล่งพลังงานสำรองอัจฉริยะที่จ่ายไฟให้ระบบสำคัญของโรงงานได้ทันทีเมื่อไฟดับ ช่วยให้การผลิตไม่สะดุด ลดความเสี่ยงจาก Downtime ที่ไม่คาดฝัน ทั้งยังปกป้องรายได้และชื่อเสียงขององค์กรได้อีกด้วย
อ่านบทความที่น่าสนใจ :ลด Downtime เพิ่มประสิทธิภาพในโรงงาน แค่ทำ PM ระบบไฟฟ้า
ตัวช่วยบริหารจัดการต้นทุนพลังงาน
โรงงานส่วนใหญ่มักมีช่วงเวลาที่ใช้ไฟฟ้าสูงมาก หรือที่เรียกว่า Peak Hour ซึ่งเป็นช่วงที่การไฟฟ้าคิดค่าไฟในอัตราที่แพงที่สุด แต่ Solar Rooftop โรงงานทั่วไปไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ในเวลานั้น การมีแบตเตอรี่โซล่าเซลล์จึงเข้ามาช่วยแก้ปัญหานี้ได้อย่างชาญฉลาดด้วยกลยุทธ์ Peak Shaving หรือการลดการใช้ไฟสูงสุด
หลักการทำงานของ Peak Shaving คือ กักเก็บพลังงานราคาถูกในช่วงกลางวัน เมื่อ Solar Rooftop ของโรงงาน ผลิตไฟฟ้าได้มากและค่าไฟฟ้ามีราคาถูก แบตเตอรี่จะทำการกักเก็บพลังงานส่วนเกินนั้นไว้ จากนั้นจึงปล่อยพลังงานออกมาใช้ในช่วงที่พลังงานมีราคาแพงขึ้นหรือในช่วง Peak Hour ที่ค่าไฟฟ้าสูงขึ้น แบตเตอรี่จะปล่อยพลังงานที่กักเก็บไว้มาใช้จ่ายโหลดของโรงงานแทนการซื้อไฟฟ้าแพงจากการไฟฟ้าโดยตรง
การลงทุนในแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ จึงเป็นการลงทุนที่ช่วยให้โรงงานของท่านสามารถควบคุมและลดค่าไฟฟ้าลงได้อย่างยั่งยืนและมีนัยสำคัญ ซึ่งจะส่งผลดีต่อกำไรสุทธิของกิจการในระยะยาวอย่างแน่นอน
อ่านบทความที่น่าสนใจ : แบตเตอรี่โซล่าเซลล์โรงงาน จำเป็นหรือไม่ รู้ข้อดีก่อนตัดสินใจลงทุน
วิธีคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) ของแบตเตอรี่โซล่าเซลล์
การตัดสินใจลงทุนในเทคโนโลยีใหม่ ๆ สำหรับโรงงาน โดยเฉพาะอย่างยิ่งกับแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ จำเป็นต้องมีหลักการประเมินที่ชัดเจนเพื่อพิสูจน์ถึงความคุ้มค่าและผลตอบแทนที่องค์กรจะได้รับ การคำนวณผลตอบแทนจากการลงทุน (Return on Investment)หรือที่เรียกกันว่า ROI จึงกลายมาเป็นเครื่องมือสำคัญที่ช่วยให้ผู้บริหารสามารถมองเห็นมูลค่าทางธุรกิจได้อย่างเป็นรูปธรรม
ในส่วนนี้ เราจะแยกองค์ประกอบหลักของ ROI ออกเป็น 2 ส่วน คือ ผลประโยชน์ที่จะได้รับและต้นทุนที่ต้องลงทุนเพื่อให้คุณสามารถนำแนวคิดนี้ไปใช้ประเมินเบื้องต้นได้

ประโยชน์ที่จะได้รับ
ผลประโยชน์ที่ได้รับจากการติดตั้งแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ ไม่ใช่แค่การประหยัดค่าไฟในแต่ละเดือน แต่ยังรวมถึงมูลค่าที่มองไม่เห็น ซึ่งมีผลต่อความมั่นคงของธุรกิจ ไม่ว่าจะเป็น
การประหยัดค่าไฟฟ้าจากกลยุทธ์ Peak Shaving
โรงงานสามารถกักเก็บไฟฟ้าที่ผลิตได้จาก Solar Rooftop โรงงาน ในช่วงกลางวันที่ค่าไฟถูกเก็บไว้ในแบตเตอรี่โซลาร์รูฟ แล้วนำมาใช้ในช่วง Peak Hour ที่ค่าไฟแพง
ยกตัวอย่างเช่น หากโรงงานสามารถลดการใช้ไฟฟ้าจากการไฟฟ้าในช่วง Peak ได้วันละ 500 kWh โดยใช้ไฟจากแบตเตอรี่แทน และส่วนต่างราคาค่าไฟอยู่ที่ 2.5 บาท/หน่วย นั่นหมายความว่าคุณสามารถประหยัดค่าใช้จ่ายต่อวันไปเท่ากับ 500 kWh x 2.5 บาท = 1,250 บาท หรือประมาณ 456,250 บาทต่อปีเลยทีเดียว
การประหยัดค่า FT (Fuel Tariff) และค่า Demand Charge
การลดการใช้ไฟฟ้าในช่วง Peak ด้วยแบตเตอรี่โซลาร์รูฟ ยังช่วยลดค่าใช้จ่ายอื่น ๆ ที่ผันแปรตามการใช้ไฟฟ้าสูงสุด (Demand Charge) และค่าเชื้อเพลิง (FT) ซึ่งเป็นต้นทุนสำคัญในบิลค่าไฟของโรงงานอีกด้วย
ยกตัวอย่างเช่นการลด Peak Demand ลง 50 kW อาจช่วยประหยัดค่า Demand Charge ได้หลายพันบาทต่อเดือน และค่า FT ที่ลดลงตามการใช้ไฟโดยรวม
มูลค่าจากการลดความเสี่ยง (Avoided Costs of Downtime)
แม้ในส่วนนี้จะประเมินเป็นตัวเลขที่แน่นอนได้ยาก แต่มูลค่าของการที่โรงงานสามารถเดินเครื่องต่อไปได้เมื่อเกิดไฟดับนั้นมากมายมหาศาลอย่างแน่นอน ทั้งความเสียหายของวัตถุดิบ สินค้าที่อยู่ในกระบวนการผลิต ค่าซ่อมบำรุงเครื่องจักร และที่สำคัญคือการรักษาความน่าเชื่อถือกับลูกค้า
ยกตัวอย่างเช่น หากไฟดับหนึ่งครั้งทำให้โรงงานเสียหาย 50,000 บาท การมีแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ช่วยป้องกันเหตุการณ์นี้ได้ 2 ครั้งต่อปี นั่นหมายถึงคุณสามารถหลีกเลี่ยงความเสียหายได้ ถึง 100,000 บาท
ต้นทุนในการลงทุน
ต้นทุนของการติดตั้งแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ คือการลงทุนเบื้องต้นที่ต้องจ่าย แต่จะถูกชดเชยด้วยผลประโยชน์ที่ได้รับในระยะยาว เช่น
ค่าจัดซื้อและติดตั้งระบบแบตเตอรี่
ในส่วนค่าจัดซื้อและค่าติดตั้งระบบแบตเตอรี่โซลาร์รูฟนี้รวมถึงตัวแบตเตอรี่ อินเวอร์เตอร์ ระบบควบคุม และค่าติดตั้งทั้งหมด ซึ่งขึ้นอยู่กับขนาดและความจุของแบตเตอรี่ที่เหมาะสมกับความต้องการของโรงงานด้วย
ยกตัวอย่างเช่น สำหรับโรงงานขนาดกลางที่ต้องการระบบแบตเตอรี่สำหรับ Peak Shaving และสำรองไฟบางส่วน อาจมีค่าใช้จ่ายเริ่มต้นอยู่ที่ประมาณ 1,500,000 – 3,000,000 บาท
ค่าบำรุงรักษาและค่าเสื่อมราคา
แน่นอนว่าแบตเตอรี่ย่อมมีอายุการใช้งานและประสิทธิภาพที่ลดลงตามกาลเวลา โดยเฉลี่ยจะอยู่ที่ประมาณ 10-15 ปีสำหรับเทคโนโลยีปัจจุบัน จึงต้องพิจารณาค่าบำรุงรักษาตามรอบและค่าเสื่อมราคาสำหรับการวางแผนระยะยาว
ยกตัวอย่างเช่น กำหนดค่าบำรุงรักษาประมาณ 1-2% ของค่าติดตั้งต่อปี และค่าเปลี่ยนแบตเตอรี่ในอนาคต

แบบเตอรี่โซล่าเซลล์กับประโยชน์ที่มากกว่าตัวเงิน
นอกเหนือจากผลตอบแทนทางการเงินที่คำนวณเป็นตัวเลขได้ชัดเจนแล้ว การลงทุนในแบตเตอรี่โซล่าเซลล์สำหรับ Solar Rooftop โรงงาน ยังมอบประโยชน์เชิงกลยุทธ์ที่สำคัญ ซึ่งเป็นรากฐานของการเติบโตที่ยั่งยืนและสร้างความได้เปรียบในการแข่งขันในระยะยาวให้กับธุรกิจของคุณได้มากกว่าที่คิด ไม่ว่าจะเป็น
- เสริมสร้างภาพลักษณ์องค์กรด้านความยั่งยืน (ESG & Green Operations)
ในยุคที่ผู้บริโภคและคู่ค้าให้ความสำคัญกับประเด็นด้านสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล (ESG) หากโรงงานของคุณสามารถประกาศว่าใช้พลังงานสะอาด 100% ตลอด 24 ชั่วโมง ผ่านระบบโซล่าเซลล์ Hybrid ที่มีแบตเตอรี่โซลาร์รูฟ นับเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่แข็งแกร่งได้เป็นอย่างดี เพราะสิ่งนี้ไม่เพียงแต่ดึงดูดลูกค้าและนักลงทุนที่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยเสริมสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่มีข้อกำหนดด้าน Green Supply Chain เพิ่มขึ้นได้อีกด้วย
- เพิ่มความมั่นคงทางพลังงาน ลดความผันผวนของต้นทุนในระยะยาว
การพึ่งพาไฟฟ้าจากโครงข่ายหลักเพียงอย่างเดียว ทำให้ธุรกิจต้องเผชิญกับความผันผวนของค่าไฟฟ้าที่ยากจะควบคุม แต่ด้วยแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ โรงงานจะมีแหล่งพลังงานสำรองที่ควบคุมได้เอง เพราะการมีพลังงานเป็นของตนเอง คือการลงทุนในความมั่นคงทางธุรกิจที่ไม่สามารถประเมินค่าได้ แต่รับรองได้ว่าจะช่วยลดการพึ่งพาจากภายนอกและสร้างเสถียรภาพด้านต้นทุนพลังงานในระยะยาวได้อย่างแน่นอน
- เตรียมพร้อมรับการเปลี่ยนแปลงกฎระเบียบและเทคโนโลยีในอนาคต
โลกกำลังมุ่งสู่การใช้พลังงานหมุนเวียนอย่างเต็มตัว ดังนั้นการลงทุนในระบบโซล่าเซลล์ Hybrid และ แบตเตอรี่โซล่าเซลล์ตั้งแต่วันนี้ ถือเป็นการเตรียมความพร้อมของโรงงานให้สอดรับกับนโยบายภาครัฐที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น มาตรการ Carbon Tax หรือการส่งเสริม Microgrid
นอกจากนี้ การเปิดรับเทคโนโลยีพลังงานอัจฉริยะ อาจเข้ามาเปลี่ยนแปลงภูมิทัศน์ของอุตสาหกรรม ได้อีกด้วย การเป็นผู้นำในการปรับตัวจะช่วยให้องค์กรไม่ถูกทิ้งไว้ข้างหลังและสามารถคว้าโอกาสใหม่ ๆ ได้ก่อนคู่แข่งเสมอ
แบตเตอรี่โซล่าเซลล์จึงไม่ได้เป็นเพียงแค่ส่วนประกอบทางเทคนิค แต่กลายเป็นการลงทุนเชิงกลยุทธ์ที่ยกระดับสถานะของโรงงานจากผู้บริโภคพลังงาน ไปสู่ผู้ผลิตและผู้บริหารจัดการพลังงาน พร้อมสร้างความยั่งยืนทั้งด้านเศรษฐกิจ สิ่งแวดล้อม และสังคม เพื่ออนาคตของธุรกิจได้อย่างแท้จริง

แล้วการเลือกและออกแบบระบบต้องมีทีมผู้เชี่ยวชาญไหม?
การลงทุนกับแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ และระบบโซล่าเซลล์ Hybrid สำหรับ Solar Rooftop โรงงาน คือการออกแบบโซลูชันพลังงานที่ซับซ้อน ซึ่งต้องอาศัยความเข้าใจอย่างลึกซึ้งทั้งด้านวิศวกรรม การบริหารจัดการพลังงาน และการวิเคราะห์ทางการเงินควบคู่กันไป
การเลือกขนาด ประเภท และการออกแบบระบบให้เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าของโรงงาน รวมถึงการผสานการทำงานกับระบบไฟฟ้าเดิมอย่างราบรื่น คือปัจจัยสำคัญต่อความสำเร็จ ความปลอดภัย และ ROI ที่จะได้รับ หากไม่มีความเชี่ยวชาญ อาจนำไปสู่ปัญหาด้านประสิทธิภาพ ค่าใช้จ่ายแฝง รวมถึงเกิดความไม่ปลอดภัยในระยะยาวอีกด้วย
การตัดสินใจลงทุนในโซลูชันพลังงานระดับนี้ จึงจำเป็นต้องอาศัยผู้เชี่ยวชาญด้วยเหตุผล ดังนี้
- ความแม่นยำในการออกแบบ: ผู้เชี่ยวชาญสามารถวิเคราะห์ความต้องการพลังงานที่แท้จริงของโรงงาน คำนวณขนาดแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ และระบบโซล่าเซลล์ Hybrid ได้อย่างแม่นยำ เพื่อให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดและตอบโจทย์การใช้งานของคุณโดยเฉพาะ
- การรับประกันความคุ้มค่าและ ROI: ด้วยประสบการณ์ ผู้เชี่ยวชาญสามารถประเมินผลตอบแทนจากการลงทุน (ROI) และระยะเวลาคืนทุนได้อย่างน่าเชื่อถือ โดยอาศัยข้อมูลเชิงลึกและแนวโน้มตลาด เพื่อให้คุณมั่นใจในการลงทุนได้มากขึ้น
- มาตรฐานความปลอดภัยและการติดตั้ง: ระบบพลังงานกำลังสูงต้องได้รับการติดตั้งอย่างถูกต้องตามหลักวิศวกรรมและมาตรฐานความปลอดภัยสูงสุด การเลือกผู้เชี่ยวชาญคือการรับประกันว่าระบบของคุณจะทำงานได้อย่างเสถียร ปลอดภัย และมีอายุการใช้งานยาวนาน
ณัฐภูมิ วิศวกรรม บริการติดตั้ง ออกแบบระบบไฟฟ้าให้เหมาะสมกับบ้าน และธุรกิจองค์กรของคุณ
การลงทุนในแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ คือการลงทุนในอนาคตที่ยั่งยืนของธุรกิจ และจะดียิ่งกว่าหากเลือกพันธมิตรที่มีความรู้และประสบการณ์ จะช่วยให้คุณมั่นใจได้ว่าทุกขั้นตอนจะดำเนินไปอย่างราบรื่น ได้มาตรฐาน และมอบผลตอบแทนสูงสุดตามที่คาดหวัง
หากคุณกำลังมองหาพันธมิตรที่เชี่ยวชาญด้านพลังงานแบบครบวงจร ณัฐภูมิ วิศวกรรม ให้บริการออกแบบติดตั้งระบบไฟฟ้าแบบครบวงจรทั้งแรงสูงและแรงต่ำ และบริการออกแบบ ติดตั้ง บำรุงรักษาระบบโซลาร์เซลล์ รวมถึงสถานีชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า (EV Charger) ที่ผสานเข้ากับแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ ได้อย่างลงตัว เพื่อความปลอดภัยด้วยประสิทธิภาพสูงสุดและได้รับประโยชน์สูงสุดจากพลังงานสะอาด
ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ติดต่อเราหรือโทร 098-291-4911 และแอดไลน์ @npeng
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับแบตเตอรี่โซล่าเซลล์
1. แบตเตอรี่โซล่าเซลล์ต่างจากระบบโซลาร์รูฟทั่วไปอย่างไร?
ระบบโซลาร์รูฟทั่วไป (On-Grid) จะผลิตไฟใช้ในเวลากลางวัน และหยุดทำงานเมื่อไฟดับ แต่แบตเตอรี่โซล่าเซลล์มีการกักเก็บพลังงานไว้ใช้ช่วงกลางคืนหรือยามไฟดับ ทำให้โรงงานมีไฟฟ้าใช้ต่อเนื่อง 24 ชั่วโมง และสามารถบริหารจัดการต้นทุนค่าไฟได้ยืดหยุ่นกว่ามากในระบบโซล่าเซลล์ Hybrid
2. ระบบโซล่าเซลล์ Hybrid ที่มีแบตเตอรี่ เชื่อมต่อกับเครื่องกำเนิดไฟฟ้า (Generator) ของโรงงานได้ไหม?
ได้ และนั่นคือหนึ่งในข้อดีของระบบโซล่าเซลล์ Hybrid ที่สามารถผสานการทำงานร่วมกับแหล่งพลังงานอื่น ๆ ได้อย่างยืดหยุ่น ซึ่งการเชื่อมเข้ากับ Generator จะช่วยส่งเสริมการสร้างระบบพลังงานที่มั่นคงและไร้รอยต่อมากยิ่งขึ้น ช่วยให้โรงงานมีทางเลือกในการบริหารจัดการพลังงานได้หลากหลายสถานการณ์
3. การลงทุนในแบตเตอรี่โซล่าเซลล์ มีมาตรการส่งเสริมหรือลดหย่อนภาษีจากภาครัฐหรือไม่?
มี โดยปกติภาครัฐจะมีการส่งเสริมการลงทุนในพลังงานหมุนเวียนและประสิทธิภาพพลังงานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งอาจมีมาตรการลดหย่อนภาษี หรือสิทธิประโยชน์อื่น ๆ สำหรับผู้ประกอบการที่ลงทุนในเทคโนโลยีดังกล่าว โดยผู้เชี่ยวชาญสามารถให้ข้อมูลและคำแนะนำเกี่ยวกับมาตรการที่เกี่ยวข้องในช่วงเวลานั้น ๆ ได้