1. พฤติกรรมการใช้ไฟฟ้าและค่าไฟปัจจุบันของคุณ
การประเมินความคุ้มค่าในการติดตั้งโซล่าเซลล์ที่ดีที่สุด คือ การตรวจสอบบิลค่าไฟของตัวเอง ยกตัวอย่างเช่น มีการใช้ไฟฟ้าตอนกลางวันมาก เนื่องจากทำงานจากที่บ้าน หรือเปิดเครื่องปรับอากาศในช่วงกลางวัน ในกรณีนี้ การติดตั้งโซล่าเซลล์จะช่วยลดค่าไฟฟ้าได้อย่างมีประสิทธิภาพในระยะยาว
โดยเราสามารถเช็กได้ด้วยการดูบิลค่าไฟย้อนหลัง 3-6 เดือน และประเมินการใช้ไฟฟ้าของเราในช่วงกลางวันและกลางคืนว่ามากน้อยแค่ไหน ใช้ในช่วงเวลาไหนมากกว่ากัน
2. สภาพหลังคาบ้าน
ก่อนติดตั้งหลังคาโซล่าเซลล์ อย่าลืมเช็กหลังคาบ้านของเราเองเสียก่อน เราควรพิจารณาพื้นที่บนหลังคาบ้านว่ามีเพียงพอสำหรับการติดตั้งไหม โครงสร้างของหลังคาบ้านแข็งแรงพอจะรองรับน้ำหนักของแผงโซล่าเซลล์ได้หรือเปล่า รวมถึงพิจารณาทิศทางรับแดดที่เหมาะสมว่า ทิศทางไหนของบ้านสามารถรับแสงได้ดีที่สุด เพื่อที่โซล่าเซลล์จะได้นำแสงมาใช้อย่างเต็มประสิทธิภาพในระยะเวลาที่เหมาะสมต่อวัน
3. ประเภทของระบบโซล่าเซลล์
ระบบโซล่าเซลล์แต่ละแบบมีความแตกต่างในด้านความสามารถของการผลิตไฟฟ้า และความเหมาะสมของการติดตั้งในแต่ละด้าน ดังนี้
- On-Grid: ระบบที่เชื่อมต่อกับโครงข่ายไฟฟ้าภายนอก เหมาะกับบ้านทั่วไป
- Off-Grid: ระบบที่ใช้ไฟฟ้าเองโดยไม่เชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าภายนอก เหมาะกับพื้นที่ห่างไกล
- Hybrid: ระบบที่มีทั้ง On-Grid และแบตเตอรี่สำรองไว้ใช้ในเวลากลางคืนหรือไฟดับ
การเลือกประเภทของระบบโซล่าเซลล์สำคัญมาก ควรเลือกระบบที่ตรงกับไลฟ์สไตล์และความต้องการใช้งานของบ้าน เพื่อให้เหมาะสมกับการใช้งานของบ้านเรามากที่สุด

4. ความพร้อมของระบบไฟฟ้าในบ้าน
การติดตั้ง Solar Rooftop ต้องให้ความสำคัญกับการปรับระบบไฟฟ้าในบ้านให้พร้อมใช้งานอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในส่วนที่เกี่ยวข้องกับระบบไฟฟ้าที่ใช้กับโซล่าเซลล์ ซึ่งมีปัจจัยสำคัญ 3 อย่างที่ต้องตรวจสอบให้แน่ใจว่าเหมาะสมสำหรับการติดตั้ง ดังนี้
- ขนาดมิเตอร์ไฟฟ้า
มิเตอร์ไฟฟ้าในบ้านต้องมีขนาดที่เพียงพอต่อการรองรับการใช้ไฟฟ้าที่เพิ่มขึ้นหลังจากติดตั้งหลังคาโซล่าเซลล์ แนะนำให้ใช้มิเตอร์ขนาด 30(100)A - ตู้ควบคุมไฟฟ้า
ต้องมีช่องว่างสำหรับติดตั้งเบรกเกอร์ใหม่เพื่อรองรับการเชื่อมต่อระบบโซลาร์เซลล์ หากไม่เพียงพออาจต้องพิจารณาการเปลี่ยนแปลงตู้ควบคุมไฟให้เหมาะสม - ระบบสายดินที่ได้มาตรฐาน
ระบบสายดินเป็นส่วนที่ช่วยป้องกันไฟฟ้าช็อตและเพิ่มความปลอดภัยในกรณีที่เกิดปัญหาทางไฟฟ้าภายในบ้าน ระบบสายดินภายในบ้านจึงต้องผ่านมาตรฐานที่กำหนด และทำการติดตั้งอย่างถูกต้องเพื่อความปลอดภัยสูงสุด
5. การเลือกแผงโซล่าเซลล์และอินเวอร์เตอร์
การเลือกแผงโซล่าเซลล์และอินเวอร์เตอร์ก็สำคัญ ควรเลือกแผงโซลาร์เซลล์ Tier-1 ซึ่งเป็นแผงคุณภาพสูงจากผู้ผลิตที่มีชื่อเสียง มั่นใจในประสิทธิภาพและความทนทาน
ส่วนอินเวอร์เตอร์ ก็ต้องเลือกประเภทอินเวอร์เตอร์ให้เหมาะสม ดังนี้
- String Inverter: เหมาะสำหรับบ้านที่ติดตั้งแผงไม่มาก ใช้งานง่ายและราคาประหยัด
- Microinverter: แปลงพลังงานจากแต่ละแผงแยกกัน ทำให้ไม่กระทบประสิทธิภาพรวม
การเลือกแผงโซล่าเซลล์ Tier-1 ร่วมกับการเลือกประเภทของอินเวอร์เตอร์ที่เหมาะสม จะช่วยให้ระบบหลังคาโซล่าเซลล์ทำงานได้เต็มประสิทธิภาพ และคืนทุนได้เร็วขึ้น
6. งบประมาณและการคำนวณความคุ้มค่า (ROI)
การคำนวณความคุ้มค่า (ROI) ของการติดตั้งหลังคาโซล่าเซลล์ เป็นหนึ่งในขั้นตอนสำคัญที่เจ้าของบ้านต้องพิจารณา เพื่อให้เห็นภาพว่า การลงทุนในระบบโซลาร์เซลล์จะคุ้มค่าในระยะยาวหรือไม่ โดยมีแนวทางสำหรับการคำนวณ ดังนี้
องค์ประกอบของค่าใช้จ่าย
- ค่าใช้จ่ายเริ่มต้น: ราคาของแผงโซลาร์เซลล์ อินเวอร์เตอร์ การติดตั้ง และอุปกรณ์อื่น ๆ
- ค่าใช้จ่ายในการบำรุงรักษา: ส่วนใหญ่มีค่าใช้จ่ายต่ำ เช่น การล้างแผงปีละ 1-2 ครั้ง
การคำนวณระยะเวลาคืนทุน (Payback Period)
วิธีคำนวณง่าย ๆ ก็คือ ระยะเวลาคืนทุน = เงินลงทุนทั้งหมด / ค่าไฟที่ประหยัดได้ต่อปี
ยกตัวอย่างเช่น
- เงินลงทุนทั้งหมด: 100,000 บาท
- ค่าไฟที่ประหยัดได้ต่อปี: 15,000 บาท
- ระยะเวลาคืนทุน: 100,000 ÷ 15,000 = 6.67 ปี
อ่านบทความที่น่าสนใจ: ลงทุนแบตเตอรี่โซล่าเซลล์คุ้มไหม? เปิดวิธีคำนวณ ROI เผยประโยชน์ที่มากกว่าการสำรองไฟ

7. การขออนุญาตกับหน่วยงานภาครัฐ
การติดตั้งโซลาร์เซลล์บ้านจะต้องขออนุญาตจากหน่วยงานภาครัฐ เช่น การไฟฟ้าฯ และหน่วยงานท้องถิ่น ก่อนดำเนินการติดตั้ง ซึ่งการขออนุญาตและติดตั้งตามมาตรฐานที่กำหนดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความปลอดภัยและการใช้งานที่ยาวนาน
การติดตั้งโซล่าเซลล์ระบบ On-Grid ที่บ้าน ต้องมีการขออนุญาตจากสองหน่วยงานหลัก ได้แก่
- การไฟฟ้าฯ (กฟภ./กฟน.)
- หน่วยงานท้องถิ่น เช่น เทศบาล, อบต.
ซึ่งการขออนุญาตและติดตั้งตามมาตรฐานที่กำหนดเป็นสิ่งสำคัญเพื่อความปลอดภัยและการใช้งานที่ยาวนาน โดยขั้นตอนการขออนุญาตเหล่านี้จำเป็นต้องดำเนินการอย่างถูกต้องตามข้อกำหนดของหน่วยงานต่าง ๆ เพื่อให้การติดตั้งเป็นไปอย่างราบรื่นและปลอดภัยสูงสุด
แต่ขั้นตอนที่ซับซ้อนเหล่านี้อาจทำให้หลายคนรู้สึกท้อแท้ แต่ ณัฐภูมิ วิศวกรรมพร้อมให้บริการดูแลทั้งหมด ตั้งแต่การยื่นขออนุญาตจนเสร็จสมบูรณ์ โดยไม่มีความยุ่งยากสำหรับคุณ
8. ขั้นตอนและระยะเวลาในการติดตั้ง
การติดตั้ง Solar Rooftop ที่บ้านมีหลายขั้นตอน ตั้งแต่การสำรวจพื้นที่ การออกแบบ ไปจนถึงการติดตั้งจริง ขั้นตอนต่าง ๆ เหล่านี้มีระยะเวลาโดยประมาณ ดังนี้
สำรวจพื้นที่
ขั้นตอนนี้เป็นการสำรวจหลังคาและประเมินความเหมาะสมในการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ รวมถึงการวิเคราะห์สภาพแสงแดด พื้นที่ติดตั้ง และความแข็งแรงของโครงสร้างหลังคา มักจะใช้เวลาประมาณ 1-2 วัน
ออกแบบระบบ
การออกแบบหลังคาโซล่าเซลล์ที่เหมาะสมกับบ้านของเรา จะต้องพิจารณาถึงประเภทของระบบ (On-Grid, Off-Grid หรือ Hybrid) และขนาดที่เหมาะสมกับการใช้พลังงานในบ้าน มักจะใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน
ขออนุญาตจากหน่วยงานภาครัฐ
กระบวนการขออนุญาตจากหน่วยงานต่าง ๆ อาจใช้เวลาแตกต่างกันตามข้อกำหนดและการตรวจสอบ ใช้เวลาประมาณ 7-14 วัน ขึ้นอยู่กับหน่วยงานนั้น ๆ โดยหน่วยงานที่ต้องขออนุญาต ได้แก่ การไฟฟ้าฯ และหน่วยงานท้องถิ่น เป็นต้น
ติดตั้งแผงโซล่าเซลล์บนหลังคา
ขั้นตอนนี้จะรวมถึงการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ทั้งหมดและการติดตั้งระบบไฟฟ้าที่เชื่อมต่อกับบ้าน รวมถึงการตรวจสอบความปลอดภัยและการทำงานของระบบ มักใช้เวลาประมาณ 3-5 วัน
9. การรับประกัน
การรับประกันที่เจ้าของบ้านควรได้รับประกอบด้วย 3 ส่วนหลัก ได้แก่
1. การรับประกันตัวแผง (Product Warranty)
เป็นการรับประกันคุณภาพของแผงโซลาร์เซลล์ โดยทั่วไปแล้วแผงโซลาร์เซลล์จากผู้ผลิตที่มีมาตรฐานจะมีการรับประกันในระยะเวลา 10-12 ปี ซึ่งครอบคลุมการเสียหายจากการผลิต เช่น เซลล์เสียหายหรือไม่ทำงานตามที่ควรจะเป็น
การรับประกันนี้ช่วยให้มั่นใจว่าแผงโซลาร์เซลล์ที่ติดตั้งจะมีอายุการใช้งานยาวนานและไม่ต้องเสียค่าใช้จ่ายในการเปลี่ยนแผงในช่วงระยะเวลานี้
2. การรับประกันประสิทธิภาพการผลิตไฟของแผง (Performance Warranty)
การรับประกันนี้จะครอบคลุมถึงการรับประกันประสิทธิภาพในการผลิตไฟฟ้าของแผงโซลาร์เซลล์ โดยปกติแล้วจะมีระยะเวลา 20-25 ปี ซึ่งระบุว่าแผงโซลาร์เซลล์จะไม่ลดประสิทธิภาพลงเกินกว่าระดับที่กำหนด เช่น 80% ของประสิทธิภาพเริ่มต้น
ในช่วงระยะเวลานี้ หากประสิทธิภาพลดลงเกินกว่าที่ระบุ ผู้ผลิตจะต้องรับผิดชอบในการเปลี่ยนแผงใหม่หรือซ่อมแซมให้
3. การรับประกันงานติดตั้ง (Installation Warranty)
เป็นการรับประกันที่เกี่ยวข้องกับงานติดตั้ง โดยบริษัทที่ติดตั้งจะรับผิดชอบในการซ่อมแซมงานติดตั้งที่ผิดพลาดหรือชำรุดในช่วงระยะเวลาที่กำหนด ซึ่งมักจะอยู่ในช่วง 1-5 ปี ขึ้นอยู่กับบริษัทที่ให้บริการ
การรับประกันนี้ช่วยให้มั่นใจว่าโครงสร้างการติดตั้ง เช่น โครงเหล็ก และการติดตั้งแผง จะไม่เกิดปัญหาในระหว่างการใช้งาน

10. การบำรุงรักษา (O&M)
การบำรุงรักษาระบบโซล่าเซลล์สำหรับบ้าน จะมีการทำความสะอาดแผงโซล่าเซลล์ปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อขจัดฝุ่นหรือสิ่งสกปรกที่อาจบังแสงอาทิตย์และทำให้การผลิตไฟฟ้าลดลง สามารถทำได้ด้วยการใช้แปรงขนอ่อนหรือผ้าชุบน้ำสะอาด แต่ไม่ควรไม่ใช้น้ำแรงดันสูง เพราะอาจทำให้แผงเสียหายได้
การบำรุงรักษาระบบโซลาร์เซลล์เป็นเรื่องง่าย ๆ และไม่จำเป็นต้องใช้เวลาเยอะ แต่ยังคงช่วยให้ระบบทำงานได้เต็มประสิทธิภาพตลอดเวลา ซึ่งจะช่วยเพิ่มอายุการใช้งานของแผงโซลาร์เซลล์และลดความเสี่ยงของปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต
ณัฐภูมิ วิศวกรรม พร้อมให้บริการบำรุงรักษาระบบโซลาร์เซลล์แบบครบวงจร ให้ระบบโซลาร์เซลล์ของบ้านทำงานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ โดยไม่ต้องกังวลเรื่องการดูแลรักษา เพื่อให้การผลิตไฟฟ้าของคุณเป็นไปอย่างต่อเนื่องและมีประสิทธิภาพสูงสุด
11. การวางแผนเพื่ออนาคต
เมื่อวางแผนจะติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ที่บ้านแล้ว อย่าลืมคำนึงถึงอนาคตที่อาจมีการใช้เทคโนโลยีใหม่ ๆ ด้วย เช่น
- EV Charger หากมีแผนจะใช้รถไฟฟ้าในอนาคต การออกแบบระบบโซล่าเซลล์ให้สามารถรองรับการติดตั้ง EV Charger จะทำให้เราพร้อมสำหรับการชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าได้จากพลังงานสะอาดที่ผลิตจากหลังคาโซล่าเซลล์ของเราเอง
- แบตเตอรี่: หากต้องการสำรองไฟฟ้าในช่วงที่ไฟฟ้าหลักขัดข้องหรือในเวลากลางคืน การติดตั้งแบตเตอรี่ในระบบ Hybrid จะช่วยให้เรามีพลังงานสำรองได้ตลอดเวลา ช่วยเพิ่มความมั่นคงทางพลังงานให้กับบ้านของเรา
12. การเลือกบริษัทติดตั้งที่น่าเชื่อถือ
การติดตั้งโซล่าเซลล์ที่บ้าน คือการลงทุนระยะยาว 25 ปี ที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยสูงสุดของครอบครัว ดังนั้น คุณไม่ควรเลือกแค่ ‘ผู้รับเหมา’ แต่ควรเลือก ‘พันธมิตรทางวิศวกรรม’
การเลือกบริษัทติดตั้งโซล่าเซลล์สำหรับบ้าน จึงเป็นอีกหนึ่งขั้นตอนสำคัญที่มองข้ามไม่ได้ เพราะบริษัทที่มีความเชี่ยวชาญจะสามารถให้บริการที่มีมาตรฐานสูง พร้อมทั้งคำนึงถึงความปลอดภัยของการติดตั้งและการใช้งานระบบโซล่าเซลล์ในระยะยาว
การเลือกบริษัทรับติดตั้งโซล่าเซลล์ที่มีประวัติการทำงานที่เชื่อถือได้ มีทีมวิศวกรควบคุมงาน และมีผลงานที่พิสูจน์ได้ จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าโครงการติดตั้งโซลาร์เซลล์จะดำเนินไปอย่างราบรื่นและปลอดภัย
โดยเรามี Checklist สั้น ๆ ที่ใช้ในการเลือกบริษัทติดตั้งโซล่าเซลล์มาฝาก!
- บริษัทมีประวัติยาวนานและมีชื่อเสียงในวงการ
- มีทีมวิศวกรที่เชี่ยวชาญควบคุมงาน
- มีผลงานที่สามารถพิสูจน์ได้และได้รับความไว้วางใจจากลูกค้า
- บริษัทสามารถให้บริการที่ครบวงจร ตั้งแต่การออกแบบ ติดตั้ง ไปจนถึงการบำรุงรักษา
- มีการรับประกันผลงานและอุปกรณ์ที่ติดตั้ง
- คำนึงถึงความปลอดภัยและมาตรฐานการติดตั้งในทุกขั้นตอน
ณัฐภูมิ วิศวกรรม ใช้มาตรฐานเดียวกับการติดตั้งในโรงงานอุตสาหกรรม (ISO 9001) และประสบการณ์กว่า 30 ปี มาดูแลบ้านของคุณ
การติดตั้งหลังคาโซล่าเซลล์ หรือ Solar Rooftop ที่บ้านเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว เพราะไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าไฟฟ้าของบ้านเท่านั้น แต่ยังเป็นการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับบ้านของเราอีกด้วย โดยการเลือกบริษัทติดตั้งที่เชี่ยวชาญและมีประสบการณ์ด้านวิศวกรรมไฟฟ้าเป็นปัจจัยที่สำคัญที่สุดที่จะทำให้การลงทุนนี้ปลอดภัยและได้มาตรฐานสูงสุด ซึ่ง ณัฐภูมิ วิศวกรรม ใช้มาตรฐานเดียวกับการติดตั้งในโรงงานอุตสาหกรรม (ISO 9001) และประสบการณ์กว่า 30 ปี มาดูแลบ้านของคุณ
หากคุณกำลังมองหาผู้เชี่ยวชาญที่สามารถช่วยออกแบบ ติดตั้ง และดูแลระบบโซลาร์เซลล์ให้กับบ้านของคุณ ณัฐภูมิ วิศวกรรม ให้บริการออกแบบ ติดตั้ง บำรุงรักษาระบบโซลาร์เซลล์ ด้วยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่จะช่วยให้คุณมั่นใจในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การประเมินความคุ้มค่าไปจนถึงการติดตั้งที่มีมาตรฐานสูงสุด
ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ติดต่อเรา
หรือโทร 098-291-4911 และแอดไลน์ @npeng
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการติดตั้งหลังคาโซล่าเซลล์ที่บ้าน
1. หลังคาบ้านต้องมีลักษณะอย่างไรถึงจะติดตั้งโซล่าเซลล์ได้?
หลังคาควรมีพื้นที่เพียงพอสำหรับการติดตั้งแผงโซลาร์เซลล์ และควรหันไปทางทิศใต้เพื่อรับแสงแดดสูงสุด นอกจากนี้ยังควรตรวจสอบว่ามีเงาต้นไม้หรืออุปสรรคที่บดบังแสงแดดหรือไม่ และหลังคาต้องสามารถรับน้ำหนักได้ด้วย
2. ต้องทำความสะอาดแผงโซล่าเซลล์บ่อยแค่ไหน?
ควรทำความสะอาดปีละ 1-2 ครั้ง เพื่อขจัดฝุ่นและสิ่งสกปรกที่อาจบดบังแสงแดดและทำให้การผลิตไฟฟ้าลดลง การล้างแผงควรทำอย่างระมัดระวังและใช้เครื่องมือที่ปลอดภัย
3. ถ้าเป็นบ้านทั่วไป ควรเลือกระบบโซล่าเซลล์แบบไหน?
สำหรับบ้านทั่วไป ส่วนใหญ่แล้วระบบโซล่าเซลล์ที่เหมาะสมที่สุดคือระบบ On‑Grid เนื่องจากสามารถใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ในช่วงกลางวัน เพื่อลดค่าไฟฟ้าของบ้าน และยังคงเชื่อมต่อกับระบบไฟฟ้าภายนอกเพื่อใช้ในช่วงกลางคืน หรือเมื่อไม่สามารถผลิตไฟฟ้าได้จากโซล่าเซลล์ รวมถึงไม่ต้องใช้แบตเตอรี่เก็บพลังงาน ทำให้ค่าใช้จ่ายในการติดตั้งไม่สูงจนเกินไป
