การเข้าใจแต่ละขั้นตอนของงานติดตั้งระบบไฟฟ้าโรงงาน จะช่วยให้เราประเมินและเลือกผู้รับเหมาที่มีคุณภาพได้ดีมากยิ่งขึ้น และทำให้การดำเนินงานเป็นไปตามแผนและเป้าหมายที่วางไว้ มาดูกันว่ามีขั้นตอนอะไรบ้างเพื่อให้ได้มาตรฐานการติดตั้งระบบไฟฟ้าสูงสุด!?
1. สำรวจและออกแบบทางวิศวกรรม
แน่นอนว่าการติดตั้งระบบไฟฟ้าในโรงงานที่ได้มาตรฐาน ต้องเริ่มต้นจากการสำรวจหน้างานจริงเสียก่อน เพราะการวางแผนที่ดีจะส่งผลให้โครงการดำเนินไปอย่างราบรื่นและประหยัดค่าใช้จ่ายในระยะยาว
ในขั้นตอนนี้ วิศวกรจะทำการสำรวจพื้นที่เพื่อเก็บข้อมูลต่าง ๆ เช่น
- ขนาดพื้นที่
- สถานที่ตั้งเครื่องจักร
- ความต้องการใช้พลังงาน
- ข้อจำกัดทางเทคนิคต่างๆ ที่อาจเกิดขึ้นในภายหลัง
หลังจากการสำรวจหน้างานเสร็จสิ้น ทีมวิศวกรจะทำการคำนวณโหลดไฟฟ้า (Load Calculation) ของเครื่องจักรทั้งหมดในโรงงาน เพื่อเช็กความสามารถในการรองรับความต้องการพลังงานว่าเพียงพอและปลอดภัยแล้วหรือไม่ การคำนวณนี้จะเป็นส่วนสำคัญในการออกแบบ Single-Line Diagram (SLD) ซึ่งเป็นแบบแปลนไฟฟ้าที่แสดงการเชื่อมต่อของวงจรไฟฟ้าทั้งหมดในโรงงาน ช่วยให้การติดตั้งเป็นไปอย่างมีประสิทธิภาพและถูกต้องตามมาตรฐานการติดตั้งระบบไฟฟ้านั่นเอง
ขั้นตอนนี้มีเป้าหมายเพื่อวางรากฐานที่แข็งแกร่งสำหรับระบบไฟฟ้าในโรงงาน การออกแบบที่แม่นยำและการคำนวณที่ถูกต้องจะช่วยให้การติดตั้งเป็นไปอย่างราบรื่น ป้องกันปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต และเพิ่มความมั่นใจให้กับลูกค้าในการเลือกผู้รับเหมา
อ่านบทความที่น่าสนใจ :เบรกเกอร์ตัดบ่อยในโรงงาน สัญญาณภัยที่ห้ามมองข้าม!
2. ขออนุญาตและประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ
หลังจากออกแบบและคำนวณระบบไฟฟ้าเสร็จสิ้นแล้ว ขั้นตอนถัดไปก็คือ การขออนุญาตติดตั้งและใช้งานไฟฟ้าจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เช่น การไฟฟ้าฯ และหน่วยงานภาครัฐอื่น ๆ ที่อาจมีข้อกำหนดและข้อบังคับต่าง ๆ สำหรับการติดตั้งระบบไฟฟ้าในโรงงาน เพื่อให้สามารถดำเนินการโครงการทั้งหมดได้อย่างถูกต้องตามกฎหมาย และสามารถขออนุญาตใช้งานได้โดยไม่มีปัญหาในภายหลัง
แต่การขออนุญาตและการประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐไม่ใช่เรื่องง่าย เพราะต้องใช้ความเชี่ยวชาญและความเข้าใจในกฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ โดยบริษัทที่มีประสบการณ์ในการทำงานจะสามารถจัดการขั้นตอนนี้ให้ลูกค้าได้อย่างรวดเร็วและปลอดภัย ซึ่งจะช่วยลดภาระและเวลาของลูกค้าในการขออนุญาตและการติดต่อกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง
หากไม่มั่นใจในกระบวนการขออนุญาตหรือการประสานงานกับหน่วยงานภาครัฐ เราพร้อมช่วย ณัฐภูมิ วิศวกรรมมีทีมงานมืออาชีพที่มีประสบการณ์และเชี่ยวชาญในการจัดการอย่างรวดเร็วและถูกต้องตามมาตรฐาน

3. วางแผนจัดหาวัสดุและอุปกรณ์
การจัดหาวัสดุและอุปกรณ์ต้องมีการวางแผนอย่างดี เพื่อให้การส่งมอบวัสดุเป็นไปตามกำหนดเวลา และมีการควบคุมคุณภาพในทุกขั้นตอน ตั้งแต่การสั่งซื้อไปจนถึงการจัดเก็บวัสดุอย่างเหมาะสม ดังนั้นขั้นตอนสำคัญต่อมาในการติดตั้งระบบไฟฟ้า คือ การเลือกวัสดุและอุปกรณ์ที่จะใช้ในโครงการนั่นเอง เช่น
- สายไฟ
- ตู้ควบคุม (MDB)
- เบรกเกอร์
- อุปกรณ์ป้องกัน
วัสดุทุกชิ้นที่เลือกใช้ต้องผ่านมาตรฐานทั้ง มอก. และ IEC เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์เหล่านั้นมีคุณภาพ ตรงตามมาตรฐาน และสามารถใช้งานได้อย่างปลอดภัยในระยะยาว
4. ลงพื้นที่และเริ่มงานติดตั้ง
ความปลอดภัยเป็นสิ่งสำคัญที่สุด การติดตั้งระบบไฟฟ้าในโรงงานจึงจะเริ่มต้นได้ก็ต่อเมื่อ มีการเตรียมพื้นที่และอุปกรณ์ที่จำเป็นเรียบร้อยแล้ว
ขั้นตอนนี้ทีมวิศวกรจะทำการควบคุมการติดตั้งตลอดทั้งโครงการ เพื่อให้การติดตั้งเป็นไปตามแผนที่วางไว้และไม่กระทบต่อการดำเนินงานของโรงงาน นอกจากนี้ยังมีการประสานงานกับฝ่ายอื่น ๆ ในโรงงานเพื่อให้การทำงานไม่เป็นอุปสรรคกับกระบวนการผลิต
และใช้ PPE (Personal Protective Equipment) รวมถึงปฏิบัติตาม ระบบ Lockout-Tagout จะช่วยป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นระหว่างการติดตั้ง เพื่อให้การติดตั้งดำเนินไปอย่างมีประสิทธิภาพและปลอดภัยที่สุด

5. ทดสอบระบบและตรวจสอบคุณภาพ
ก่อนส่งมอบงาน ระบบไฟฟ้าต้องผ่านการทดสอบก่อน เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ทั้งหมดทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพ เช่น
- การทดสอบค่าความเป็นฉนวนของสายไฟ (Insulation Test)
- การทดสอบระบบสายดิน (Grounding Test)
- การทดสอบการทำงานของอุปกรณ์ป้องกัน
การตรวจสอบคุณภาพก่อนส่งมอบงาน เป็นขั้นตอนที่สำคัญที่ช่วยเพิ่มความมั่นใจในคุณภาพและความปลอดภัยของระบบไฟฟ้าให้ลูกค้า ว่าจะไม่มีปัญหาหลังการติดตั้ง และสามารถใช้งานได้อย่างเต็มที่
6. ฝึกอบรมและการเตรียมส่งมอบงาน
เมื่อการออกแบบและติดตั้งระบบไฟฟ้าเสร็จสิ้นและพร้อมใช้งานแล้ว ก็จะมีการฝึกอบรมการใช้งานเบื้องต้นให้แก่ทีมซ่อมบำรุงของลูกค้า เพื่อให้สามารถดูแลและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าได้อย่างถูกต้อง
นอกจากนี้ยังมีการตรวจสอบความเรียบร้อยของงานทั้งหมดร่วมกับลูกค้า เพื่อให้การส่งมอบงานเป็นไปอย่างราบรื่นและไม่มีข้อผิดพลาด
อ่านบทความที่น่าสนใจ : เข้าใจความเหมาะสมของระบบไฟฟ้า เพื่อการออกแบบ ติดตั้ง และบำรุงรักษาที่ถูกต้องและปลอดภัย

7. ส่งมอบโครงการและเอกสารรับประกัน
ขั้นตอนสุดท้ายของผู้รับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้า คือการส่งมอบงานให้ลูกค้าพร้อมเอกสารสำคัญ เช่น As-Built Drawing คู่มือการใช้งาน และเอกสารรับประกัน เพื่อให้ลูกค้ามั่นใจในความทนทานและประสิทธิภาพของระบบไปจนถึงการบำรุงรักษาในอนาคต
เลือกผู้รับเหมาที่ใช่เพื่อระบบไฟฟ้าที่ปลอดภัยและมั่นคง เลือกณัฐภูมิ วิศวกรรม
การติดตั้งระบบไฟฟ้าโรงงานเป็นโครงการที่ต้องการความละเอียดรอบคอบและการวางแผนที่มีประสิทธิภาพตั้งแต่ต้นจนจบ ตั้งแต่การออกแบบที่แม่นยำ การขออนุญาตจากหน่วยงานภาครัฐ การเลือกวัสดุคุณภาพ ไปจนถึงการทดสอบระบบและการส่งมอบงานให้ลูกค้า ทุกขั้นตอนล้วนมีความสำคัญในการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่าระบบไฟฟ้าของโรงงานจะทำงานได้อย่างปลอดภัยและมีประสิทธิภาพในระยะยาว
หากคุณกำลังมองหาผู้รับเหมาติดตั้งระบบไฟฟ้าที่ไว้ใจได้ ณัฐภูมิ วิศวกรรม คือพันธมิตรที่ตอบโจทย์ Checklist ทั้ง 7 ข้อของคุณ ด้วยประสบการณ์กว่า 30 ปี, ได้มาตรฐานสากล ISO 9001, มีผลงานกว่า 550 โครงการ, และการดำเนินงานโดยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่มีใบอนุญาต เรายึดมั่นในกระบวนการที่เป็นระบบในทุกขั้นตอนของการติดตั้งระบบไฟฟ้า และเรายินดีให้บริการออกแบบติดตั้งระบบไฟฟ้าแบบครบวงจร พร้อมรับประกันการดำเนินงานที่ปลอดภัย สามารถส่งมอบงานได้ตรงตามความต้องการของคุณด้วยประสิทธิภาพสูงสุด
ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ติดต่อเรา
หรือโทร 098-291-4911 และแอดไลน์ @npeng
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับงานติดตั้งระบบไฟฟ้า
1. การติดตั้งระบบไฟฟ้าต้องใช้เวลานานไหม?
ระยะเวลาในการติดตั้งระบบไฟฟ้าขึ้นอยู่กับขนาดของโรงงานและความซับซ้อนของงาน โดยทั่วไปแล้วการติดตั้งระบบไฟฟ้าโรงงานอาจใช้เวลาหลายสัปดาห์ถึงหลายเดือน ขึ้นอยู่กับลักษณะและขอบเขตของโครงการ
2. ควรเลือกผู้รับเหมาที่มีคุณสมบัติอย่างไร?
ควรเลือกผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์ในงานติดตั้งระบบไฟฟ้าอุตสาหกรรม มีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพและการรับรองจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นอกจากนี้ควรเลือกผู้รับเหมาที่สามารถจัดการกับกระบวนการขออนุญาตและการจัดหาวัสดุได้อย่างมีประสิทธิภาพ
3. การเลือกผู้รับเหมาที่ดีจะช่วยอะไรในกระบวนการติดตั้งระบบไฟฟ้าได้บ้าง?
การเลือกผู้รับเหมาที่มีคุณภาพจะช่วยให้คุณมั่นใจในกระบวนการติดตั้งที่ปลอดภัยและตรงตามมาตรฐาน ซึ่งจะส่งผลดีต่อประสิทธิภาพการทำงานของโรงงานในระยะยาว ผู้รับเหมาที่มีประสบการณ์จะสามารถช่วยลดปัญหาที่อาจเกิดขึ้นในอนาคต เช่น ความล่าช้าในการติดตั้ง หรือการเลือกวัสดุที่ไม่เหมาะสม
