
1. ขนาดมิเตอร์ไฟฟ้า
มิเตอร์ไฟฟ้ามาตรฐานทั่วไปที่มีขนาด 15(45)A จะให้กระแสไฟฟ้าปกติอยู่ที่ 15A และมีกระแสไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ (45)A หากใช้ไฟเกินกว่านี้ต่อเนื่องเป็นเวลานาน อาจทำให้มิเตอร์ร้อนจัด ส่งผลให้เสื่อมสภาพเร็ว หรือเสียหายจนเกิดอันตรายได้
ในขณะที่มิเตอร์ขนาด 30(100)A ซึ่งเป็นขนาดที่แนะนำสำหรับบ้านที่มี EV Charger จะให้กระแสไฟฟ้าปกติอยู่ที่ 30A ซึ่งสูงกว่าขนาดมาตรฐานถึงเท่าตัว และมีกระแสไฟฟ้าสูงสุดอยู่ที่ (100)A ซึ่งสูงมากพอที่จะรองรับโหลดหนัก ๆ ได้อย่างปลอดภัย ดังนั้น สำหรับบ้านพักอาศัยส่วนใหญ่ที่ใช้ไฟฟ้า 1 เฟส ควรมีมิเตอร์ไฟฟ้าขนาด 30(100)A เป็นอย่างน้อย
จะเห็นว่า การติดตั้ง EV Charger คือการเพิ่มเครื่องใช้ไฟฟ้าที่กินไฟสูงที่สุดเข้ามาในบ้าน การใช้มิเตอร์ขนาด 15(45)A ที่มีอยู่เดิมจึงเป็นการฝืนใช้งานเกินความสามารถของอุปกรณ์ซึ่งอันตรายมาก การอัปเกรดมิเตอร์เป็น 30(100)A จึงถือเป็นข้อบังคับเพื่อความปลอดภัยสูงสุดของบ้านและครอบครัว
โดยคุณสามารถดูขนาดมิเตอร์เองได้ที่ตัวมิเตอร์หน้าบ้าน จะมีตัวเลขระบุไว้อย่างชัดเจน เช่น 15(45)A หรือ 30(100)A เป็นต้น หากพบว่ามิเตอร์ที่มีอยู่มีขนาดเล็กกว่ามาตรฐาน จำเป็นต้องติดต่อการไฟฟ้าฯ ในพื้นที่ (MEA/PEA) เพื่อยื่นเรื่องขอเปลี่ยนมิเตอร์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้น เพื่อป้องกันปัญหามิเตอร์ไหม้หรือไฟฟ้าไม่เพียงพอ
อ่านข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ : PEA แนะนำขนาดมิเตอร์ ขนาดสายออกจากมิเตอร์ และเครื่องป้องกัน

2. ความปลอดภัยและช่องว่างภายในตู้ควบคุมไฟฟ้า (Consumer Unit)
ตู้ควบคุมไฟฟ้า คือศูนย์บัญชาการของระบบไฟฟ้าในบ้าน การติดตั้ง EV Charger จำเป็นต้องมีวงจรไฟฟ้าใหม่แยกออกมาโดยเฉพาะ ตู้ควบคุมไฟฟ้าของคุณต้องพร้อมรองรับวงจรไฟฟ้าใหม่ด้วย
โดยภายในตู้ควบคุมไฟฟ้าจะต้องมีช่องว่างพอให้ติดตั้งเบรกเกอร์ย่อยตัวใหม่สำหรับ EV Charger หากตู้เต็มแล้ว อาจต้องพิจารณาเปลี่ยนตู้ใหม่หรือติดตั้งตู้เสริม
นอกจากนี้ยังต้องคำนึงถึงความปลอดภัยของตู้และเมนเบรกเกอร์ ว่ามีขนาดเหมาะสมกับมิเตอร์ไฟฟ้า และอยู่ในสภาพที่พร้อมใช้งาน ไม่เก่าหรือเสื่อมสภาพเกินไป รวมถึงมีอุปกรณ์ป้องกันไฟรั่ว (RCD/RCBO) ที่ได้มาตรฐานติดตั้งอยู่แล้วหรือยัง
ทีมวิศวกรของ ณัฐภูมิ วิศวกรรม จะประเมินสภาพของตู้โดยรวม รวมถึงขนาดของเมนเบรกเกอร์ เพื่อให้คุณมั่นใจได้ว่าตู้ควบคุมไฟฟ้าในบ้านของคุณ พร้อมรองรับการชาร์จรถ EV ได้อย่างเต็มประสิทธิภาพและปลอดภัยไร้กังวล
3. ขนาดสายไฟและระบบสายดิน
ขนาดของสายไฟและระบบสายดิน คือเทคนิคเชิงลึกที่เป็นหัวใจของความปลอดภัย และเป็นจุดที่เกิดข้อผิดพลาดได้บ่อยที่สุดหากเลือกทีมช่างที่ไม่มีความเชี่ยวชาญ เช่น
การเดินสายไฟวงจรใหม่ห้ามพ่วงสายไฟจากปลั๊กหรือวงจรไฟฟ้าเดิมมาใช้กับ EV Charger เด็ดขาด จำเป็นต้องเดินสายไฟเส้นใหม่ที่มีขนาดเหมาะสมโดยคำนวณจากกำลังไฟของเครื่องชาร์จและระยะทาง ลากตรงจากตู้ควบคุมไฟฟ้าไปยังจุดติดตั้งเท่านั้น เพื่อป้องกันปัญหาสายไฟร้อนเกินไปจนเกิดอัคคีภัย
ในส่วนของระบบสายดินการมีระบบสายดินที่สมบูรณ์ถือเป็นมาตรฐานสำคัญในการติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน เพราะสายดินคือเส้นทางที่จะนำกระแสไฟฟ้าที่อาจรั่วไหลลงสู่พื้นดินอย่างปลอดภัย ป้องกันอันตรายจากไฟฟ้าดูด
การมีทีมติดตั้งมืออาชีพ จะช่วยตรวจสอบค่าความต้านทานของหลักดิน (Ground Rod) เพื่อให้แน่ใจว่าได้มาตรฐานความปลอดภัย ณัฐภูมิ วิศวกรรม พร้อมคำนวณขนาดสายไฟตามมาตรฐาน วสท. โดยคำนึงถึงทั้งการทนกระแสต่อเนื่องและค่าแรงดันตก เพื่อประสิทธิภาพและความปลอดภัยสูงสุด
อ่านบทความที่น่าสนใจเพิ่มเติม : เดินระบบไฟฟ้าธุรกิจอย่างไรให้รองรับทั้ง EV Charger และ Solar Cell ได้ในอนาคต

4. ประเภทและกำลังไฟของ EV Charger
เมื่อระบบไฟฟ้าภายในบ้านพร้อมแล้ว ก็ถึงเวลาเลือกเครื่องชาร์จที่เหมาะสมกับรถและการใช้งานของคุณ การเลือกกำลังไฟ (kW) ของเครื่องชาร์จ EV ก็เหมือนการเลือกขนาดหัวจ่ายน้ำมัน ถ้าหัวจ่ายใหญ่ ก็เติมได้เร็วกว่า แต่ก็ต้องแน่ใจว่าระบบไฟฟ้าในบ้านรองรับไหวด้วย สำหรับการใช้งานที่บ้าน กำลังไฟที่นิยมที่สุดมี 2 ขนาดหลัก ๆ คือ 7.4 kW และ 22 kW ซึ่งมีความแตกต่างกันอย่างชัดเจน โดยมีแนวทางการพิจารณาเครื่องชาร์จ EV ดังนี้
- กำลังไฟ (kW): เครื่องชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าสำหรับบ้านที่นิยมที่สุดคือ ขนาด 7.4 kW ซึ่งเหมาะกับระบบไฟฟ้า 1 เฟส และเพียงพอสำหรับการชาร์จรถ EV ให้เต็มได้ข้ามคืน ภายใน 6-8 ชั่วโมง ส่วนเครื่องชาร์จขนาด 22 kW จะต้องใช้กับระบบไฟฟ้า 3 เฟส เท่านั้น
- ฟังก์ชันการใช้งาน: EV Charger สำหรับบ้านในปัจจุบันมีฟังก์ชันหลากหลาย เช่น การเชื่อมต่อผ่าน Wi-Fi การตั้งเวลาชาร์จ หรือการดูข้อมูลผ่านแอปพลิเคชัน ซึ่งคุณสามารถเลือกได้ตามงบประมาณและไลฟ์สไตล์
ตารางเปรียบเทียบเวลาชาร์จโดยประมาณสำหรับรถ EV
คุณสมบัติ | เครื่องชาร์จ 7.4 kW | เครื่องชาร์จ 22 kW |
ระบบไฟฟ้าที่ต้องใช้ | 1 เฟส (Single-phase) | 3 เฟส (Three-phase) |
มิเตอร์ที่แนะนำ | 1 เฟส, 30(100)A | 3 เฟส, 30(100)A |
ความเร็ว (กม./ชม.) | ~ 40-50 กม. | ~ 120-130 กม. |
เวลาชาร์จ (แบต 50kWh) | ~ 5-6 ชั่วโมง | ~ 1.5 – 2 ชั่วโมง |
เหมาะสำหรับ | บ้านพักอาศัยทั่วไป, ชาร์จข้ามคืน | บ้านขนาดใหญ่, ผู้ที่ต้องการความเร็วสูงสุด |
5. เลือกทีมติดตั้ง EV Charger ที่มีวิศวกรไฟฟ้าควบคุม
การติดตั้ง EV Charger เป็นงานที่ซับซ้อนกว่าการติดตั้งเครื่องใช้ไฟฟ้าทั่วไป เพราะเกี่ยวข้องทั้งกับเรื่องการคำนวณโหลดไฟฟ้า ความเข้าใจในมาตรฐานความปลอดภัยสากล และการออกแบบระบบโดยรวม ซึ่งเกี่ยวข้องกับความปลอดภัยและความรู้ทางวิศวกรรมไฟฟ้าโดยตรง
การเลือกทีมติดตั้ง EV Charger ที่มีวิศวกรไฟฟ้าที่มีใบอนุญาต (ก.ว.)ควบคุมดูแลทุกขั้นตอนของงาน จะช่วยให้มั่นใจได้ว่าระบบไฟฟ้าจะถูกประเมินและติดตั้งตามมาตรฐานสูงสุด ไม่ว่าจะเป็น
- รับประกันความถูกต้องตามหลักวิศวกรรม ตั้งแต่การออกแบบ การเลือกขนาดสายไฟ ไปจนถึงการติดตั้งอุปกรณ์ป้องกัน
- สร้างความมั่นใจในความปลอดภัยสูงสุดป้องกันความเสี่ยงจากไฟฟ้าลัดวงจร ไฟดูด หรืออัคคีภัย
- การรับประกันผลงานที่เชื่อถือได้ มีหน่วยงานหรือบริษัทที่รับผิดชอบชัดเจนหากเกิดปัญหาในอนาคต
ที่ ณัฐภูมิ วิศวกรรม ทุกโปรเจกต์การติดตั้ง EV Charger จะอยู่ภายใต้การควบคุมของทีมวิศวกรมืออาชีพ เพื่อส่งมอบงานที่มีคุณภาพและความปลอดภัยสูงสุดตามมาตรฐาน

ให้คุณมั่นใจทุกการชาร์จ ติดตั้ง EV Charger ที่บ้านกับ ณัฐภูมิ วิศวกรรม
การติดตั้งเครื่องชาร์จ EV Charger ไม่ใช่แค่การซื้อเครื่องชาร์จมาเสียบปลั๊กแล้วจะจบ แต่เป็นการวางระบบไฟฟ้าที่ต้องตรวจสอบอย่างละเอียดถึง 5 ปัจจัยหลักด้วยกัน ซึ่งในแต่ละขั้นตอนอาจดูซับซ้อนและต้องอาศัยความเชี่ยวชาญทางเทคนิค ดังนั้น เพื่อให้การลงทุนของคุณคุ้มค่าและปลอดภัยในระยะยาว การเลือกใช้บริการจากมืออาชีพจึงเป็นคำตอบที่ดีที่สุด
ณัฐภูมิ วิศวกรรม ยินดีเข้ามาดูแลความยุ่งยากเหล่านี้ให้คุณ ด้วยบริการ ออกแบบ ติดตั้ง และบำรุงรักษา เครื่องชาร์จรถไฟฟ้า อย่างครบวงจร ด้วยทีมวิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่จะประเมินและวางระบบให้เหมาะสมกับบ้านของคุณโดยเฉพาะ พร้อมติดตั้ง EV Charger คุณภาพจากแบรนด์ระดับโลกตามมาตรฐานสากล และดูแลต่อเนื่อง เพื่อให้คุณมั่นใจในความปลอดภัยและประสิทธิภาพสูงสุดในการใช้งานทุกครั้งที่ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าที่บ้านของคุณ
ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ ติดต่อเรา
หรือโทร 098-291-4911 และแอดไลน์ @npeng
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับการติดตั้ง EV Charger ที่บ้าน
1. ใช้เบรกเกอร์ธรรมดาแทนการเครื่องตัดไฟรั่ว (RCBO) ได้ไหม?
ไม่ได้เด็ดขาด เพราะเบรกเกอร์ธรรมดา (MCB) ป้องกันแค่ไฟช็อต/ไฟเกิน แต่ RCBO จะตัดวงจรทันทีเมื่อเกิดไฟรั่ว ป้องกันอันตรายจากการถูกไฟดูดโดยตรง ดังนั้น การติดตั้ง EV Charger ที่ไม่มี RCBO จึงถือว่าผิดมาตรฐานและอันตรายอย่างยิ่ง
2. ติดตั้ง EV Charger ที่บ้านจำเป็นต้องใช้สายไฟเบอร์ใหญ่หรือไม่?
จำเป็น เนื่องจากขนาดสายไฟต้องสัมพันธ์กับขนาดของเครื่องชาร์จและระยะทางในการเดินสาย จึงจำเป็นต้องมีผู้คำนวณและเลือกขนาดสายไฟที่ถูกต้องตามมาตรฐาน IEC เพื่อให้สามารถนำกระแสไฟฟ้าได้อย่างต่อเนื่องและปลอดภัย ไม่เกิดความร้อนสะสมที่สายไฟ
3. หากต้องการเปลี่ยนรถ หรืออัปเกรดเครื่องชาร์จ จะยุ่งยากไหม?
ไม่ยุ่งยาก หากมีการวางแผนและติดตั้งกับทีมงานมืออาชีพตั้งแต่แรก เพื่อออกแบบระบบโดยเผื่อการขยายหรืออัปเกรดในอนาคตไว้ (Future-proof) ทำให้การเปลี่ยนแปลงในวันข้างหน้าเป็นเรื่องง่ายและประหยัดค่าใช้จ่าย