ทำไม “เบรกเกอร์” ถึงมีความสำคัญต่อระบบไฟฟ้าในโรงงาน?
เบรกเกอร์ หรือ Circuit Breaker คืออุปกรณ์ที่มีหน้าที่ตรวจจับและตัดวงจรไฟฟ้าอัตโนมัติทันทีเมื่อเกิดความผิดปกติในระบบไฟฟ้า เช่น ไฟฟ้ารั่ว กระแสไฟฟ้าเกิน หรือไฟฟ้าลัดวงจร เพื่อลดความเสี่ยงเกิดอันตรายและเพิ่มความปลอดภัยในการใช้งานไฟฟ้า โดยเฉพาะในโรงงานอุตสาหกรรมที่มีการใช้ไฟฟ้าแรงสูงในปริมาณมากทุก ๆ วัน เบรกเกอร์จึงเปรียบเสมือนกับยามเฝ้าสถานที่ ไม่ให้เกิดอันตรายนั่นเอง
เบรกเกอร์ตัดบ่อยบอกอะไรได้บ้าง? 3 สาเหตุหลักที่ควรต้องรู้
การที่เบรกเกอร์ตัดวงจรไฟฟ้าทันทีเมื่อเกิดความผิดปกติเพื่อความปลอดภัยถือเป็นเรื่องดี แต่ถ้าหากเบรกเกอร์ตัดบ่อยในโรงงานจนดูผิดปกติ ควรต้องเริ่มหาสาเหตุว่าเบรกเกอร์ตัดเพราะอะไร เนื่องจากอาจเป็นสัญญาณบ่งบอกถึงปัญหาดังต่อไปนี้

1. ปัญหา Overload
Overload คือ การใช้กระแสไฟฟ้าเกินกำลังที่เบรกเกอร์รองรับได้ โดยปัญหานี้มักเกิดจากการใช้เบรกเกอร์ที่มีขนาด (หน่วยแอมป์) เล็ก ไม่เพียงพอต่อการใช้งาน ทำให้เบรกเกอร์ตัดไฟบ่อย ๆ เพราะไม่สามารถรับปริมาณกระแสไฟฟ้าได้ และหากฝืนใช้เบรกเกอร์ที่ไม่เหมาะสมกับการใช้งานต่อไปเรื่อย ๆ อาจทำให้เครื่องจักรมีอายุการใช้งานสั้นจากการที่โดนตัดการทำงานกะทันหันกลางคันบ่อย ๆ นั่นเอง
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม : รู้จักหน่วยทางไฟฟ้า โวลต์/แอมแปร์/วัตต์ คืออะไร ต่างกันอย่างไร?

2. ปัญหา Short Circuit หรือไฟฟ้าลัดวงจร
ไฟฟ้าลัดวงจร (Short Circuit) เป็นหนึ่งสาเหตุหลัก ๆ ที่ทำให้เบรกเกอร์ตัดบ่อยในโรงงาน ซึ่งไฟฟ้าลัดวงจรนั้นเกิดได้จากหลายปัจจัย ทั้งการสะสมความร้อนในแผงวรจรจนฉนวนเสียหาย หรือมีสัตว์เล็กไปกัดแทะปลอกฉนวน ทำให้ตัวนำไฟฟ้าเกิดการสัมผัสกันและกลายเป็นไฟฟ้าลัดวงจร
อย่างไรก็ตาม ปัญหาไฟฟ้าลัดวงจรถือว่าอันตรายอย่างมาก ต้องรีบแก้ไขโดยทันที เพราะหากปล่อยไว้อาจมีความเสี่ยงเกิดไฟไหม้ได้ ซึ่งการที่จะรู้ได้ว่าระบบไฟฟ้าเกิดลัดวงจรหรือไม่นั้น ต้องให้ช่างเข้าตรวจสอบระบบไฟฟ้าโรงงานหลังจากพบว่าเบรกเกอร์ตัดบ่อย ๆ เพื่อหาสาเหตุที่แท้จริง และทำการแก้ไขปัญหาต่อไป

3. ปัญหา Ground Fault หรือไฟฟ้ารั่วลงดิน
ไฟฟ้ารั่วลงดิน (Ground Fault) หรือที่เรียกกันสั้น ๆ ว่า ‘ไฟรั่ว’ คือการที่มีปริมาณไฟฟ้าไหลออกมาจากตัวอุปกรณ์ หรือตัวนำไฟฟ้าต่าง ๆ ซึ่งการที่มีปริมาณไฟฟ้าไหลออกอย่างต่อเนื่องอาจทำให้เบรกเกอร์ทำงานหนัก เมื่อเบรกเกอร์ทำงานหนักก็จะเกิดความร้อน และเมื่อความร้อนสะสมมาก ๆ เกินขีดจำกัด เบรกเกอร์ก็จะตัดการทำงานไปโดยอัตโนมัติเพื่อความปลอดภัย
ไฟฟ้ารั่วก็เป็นอีกหนึ่งปัญหาที่อันตรายต่อชีวิต เพราะมีโอกาสสัมผัสได้โดยตรงหากอยู่ในบริเวณที่ไฟฟ้ารั่ว หากเบรกเกอร์โรงงานตัดบ่อยผิดปกติ อาจตั้งข้อสังเกตเบื้องต้นว่ามาจากไฟรั่ว โดยสามารถตรวจเช็กด้วยการปิดเครื่องใช้ไฟฟ้าทุกชนิด รวมถึงปิดไฟให้เรียบร้อย เพื่อดูว่ามีจุดไหนที่เกิดประกายไฟช็อตหรือไม่ ถ้ามี แปลว่าโรงงานกำลังเจอปัญหาไฟฟ้ารั่วลงดิน และต้องแก้ไขโดยด่วน
หากปล่อยปัญหาเบรกเกอร์ตัดบ่อยทิ้งไว้ จะเกิดผลกระทบอะไรบ้าง
อย่างที่ได้กล่าวไปข้างต้นว่าถ้าพบเจอปัญหาเบรกเกอร์ตัดบ่อยในโรงงาน ควรที่จะทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้า และแก้ไขทันที เพราะหากไม่รีบแก้ไข อาจส่งผลกระทบดังต่อไปนี้ได้
- เกิดอันตรายต่อทรัพย์สินและพนักงาน เช่น ไฟไหม้จากไฟฟ้าลัดวงจร หรือไฟช็อตพนักงานจากไฟรั่ว
- การผลิตหยุดชะงัก เมื่อเบรกเกอร์ตัดบ่อย ๆ เครื่องจักรก็จะหยุดทำงานตามไปด้วย ส่งผลให้การผลิตและการดำเนินงานล่าช้า
- ผลิตภัณฑ์เสียหาย โดยเฉพาะในอุตสาหกรรมที่ต้องควบคุมอุณหภูมิอย่างแม่นยำ การที่เบรกเกอร์ตัด ห้องควบคุมอุณหภูมิก็จะหยุดทำงานตามไปด้วย ซึ่งอาจทำให้ผลิตภัณฑ์เสียหาย หรือไม่ได้คุณภาพ เช่น ผลิตภัณฑ์ยา อาหารเสริม อุตสาหกรรมอาหารแช่แข็ง หรือสกินแคร์ เป็นต้น
- เสียค่าซ่อมบำรุงอุปกรณ์สูงขึ้น หากตรวจสอบและซ่อมบำรุงระบบไฟฟ้าให้ปลอดภัยครอบคลุมตั้งแต่เนิ่น ๆ จะช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านการซ่อมบำรุง หรือเสียเงินซื้อเครื่องจักรใหม่ในกรณีเครื่องจักรพังเสียหายได้

แก้ปัญหาเบรกเกอร์ตัดบ่อยในโรงงาน เริ่มที่เบรกเกอร์ และการตรวจระบบไฟฟ้า
การแก้ไขปัญหาเบรกเกอร์ตัดบ่อยในโรงงาน ตามหลักวิศวกรรมแล้วควรที่จะแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ ซึ่งนั่นคือ ตัวเบรกเกอร์ และระบบไฟฟ้า โดยมีรายละเอียดดังนี้
ตรวจสอบและประเมินระบบไฟฟ้า ด้วยทีมผู้เชี่ยวชาญ
การตรวจสอบระบบไฟฟ้าหลังจากเจอปัญหาเบรกเกอร์ตัดบ่อย ๆ เป็นสิ่งที่ควรทำอย่างมาก เพราะเบรกเกอร์ถือเป็นอุปกรณ์ที่ส่งสัญญาณได้ว่าระบบไฟฟ้าเกิดความผิดปกติขึ้น แต่การตรวจสอบระบบไฟฟ้านั้นต้องทำโดยทีมช่างและวิศวกรผู้เชี่ยวชาญ เพื่อให้สามารถวิเคราะห์และแก้ไขปัญหาได้อย่างแม่นยำ
ซึ่งการตรวจสอบระบบไฟฟ้าในโรงงาน ทีมช่างจากณัฐภูมิ วิศวกรรม จะเข้าตรวจสอบพื้นที่หน้างานตามจุดต่าง ๆ เช่น หม้อแปลงไฟฟ้า, ห้องจ่ายกระแสไฟฟ้า, MDB ตู้ควบคุมไฟฟ้า และจุดอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้อง โดยต้องมีการหยุดใช้ไฟฟ้าในช่วงที่ทีมช่างเข้าตรวจสอบ ดังนั้น ผู้ประกอบการจะต้องเตรียมสถานที่และวางแผนเรื่องการหยุดใช้ไฟฟ้าให้เรียบร้อย
อ่านบทความน่าสนใจเพิ่มเติม :5 วิธีเตรียมตัวก่อนทีมช่างเข้าทำ PM ระบบไฟฟ้า เพื่อให้งานเร็วและแม่นยำที่สุด
เลือกใช้เบรกเกอร์ที่เหมาะสมกับโหลด และขีดจำกัดที่กำหนด
การเปลี่ยนไปเลือกใช้เบรกเกอร์ที่เหมาะสมก็เป็นอีกหนึ่งปัจจัยที่จะช่วยแก้ปัญหาเบรกเกอร์ตัดบ่อยในโรงงานได้ ซึ่งเบรกเกอร์มีหลายประเภท แต่ละประเภทก็จะรองรับกระแสไฟฟ้าแตกต่างกันไป ตั้งแต่ 100 แอมป์ ไปจนถึง 2,500 แอมป์ ตามปริมาณกระแสไฟฟ้าที่ใช้และความเหมาะสมกับขนาดของอุตสาหกรรม
นอกจากนี้ยังมีเบรกเกอร์สำหรับตัดวงจรไฟรั่วโดยเฉพาะ หรือเบรกเกอร์ที่ใช้ในระบบไฟฟ้าแรงสูง ซึ่งผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญในการเลือกใช้เบรกเกอร์เพื่อความปลอดภัย และลดปัญหาเบรกเกอร์ตัดบ่อยในโรงงาน
ตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าประจำปี
นอกจากการตรวจสอบระบบไฟฟ้าหลังจากพบปัญหาเบรกเกอร์ตัดบ่อยในโรงงานแล้ว การบำรุงรักษาเชิงป้องกัน หรือการตรวจระบบไฟฟ้าประจำปี (Preventive Maintenance) ก็มีความสำคัญเช่นกัน โดยการตรวจสอบและบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าประจำปีสำคัญทั้งในแง่ของกฎหมาย และในด้านของความปลอดภัยในการใช้ไฟฟ้าโรงงาน ลดความเสี่ยงระบบไฟฟ้าเสียหาย ช่วยเพิ่มความเสถียรของระบบไฟฟ้าในโรงงานระยะยาวอีกด้วย

เบรกเกอร์ตัดบ่อยในโรงงาน วางใจให้ ณัฐภูมิ วิศวกรรม ช่วยแก้ปัญหาอย่างยั่งยืน
ปัญหาเบรกเกอร์ตัดบ่อยในโรงงาน อาจเป็นสัญญาณที่บ่งบอกได้ว่าเกิดปัญหาในระบบไฟฟ้าของโรงงาน โดยบอกได้ถึง 3 สาเหตุหลัก ๆ ทั้งปัญหาปริมาณกระแสไฟฟ้าเกิน ปัญหาไฟฟ้าลัดวงจร หรือปัญหาไฟรั่ว ซึ่งต้องทำการแก้ไขอย่างรวดเร็ว เพื่อไม่ให้เกิดอันตรายที่เสี่ยงต่อความปลอดภัยของทรัพย์สินและชีวิต
โดยในการแก้ปัญหาเบรกเกอร์ตัดบ่อยในโรงงาน สามารถแก้ปัญหาที่เบรกเกอร์โดยตรง ด้วยการเปลี่ยนเบรกเกอร์ใหม่ให้ตรงกับปริมาณการใช้ไฟฟ้า และการตรวจสอบระบบไฟฟ้า เพื่อให้ระบบไฟฟ้ามีความเสถียร ปลอดภัยอยู่เสมอ
และที่สำคัญคือการใช้ บริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าโดยทีมช่างผู้มีความเชี่ยวชาญและมีความมืออาชีพอย่างณัฐภูมิ วิศวกรรม ที่มีบริการตรวจสอบระบบไฟฟ้าประจำปี และบริการซ่อมบำรุง รวมถึงให้บริการออกแบบติดตั้งระบบไฟฟ้าคุณภาพและได้มาตรฐาน นำทีมด้วยทีมช่างวิศวกรผู้มีความเชี่ยวชาญ ให้คุณมั่นใจได้ว่าระบบไฟฟ้าในโรงงานของคุณจะมั่นคงและปลอดภัย
ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ติดต่อเรา
หรือโทร 098-291-4911 และแอดไลน์@npeng
คำถามที่พบบ่อยเกี่ยวกับเบรกเกอร์ตัดบ่อยในโรงงาน
1. การที่เบรกเกอร์ตัดบ่อย ๆ แสดงว่าอุปกรณ์ไฟฟ้าเกิดความเสียหายหรือไม่?
อาจไม่ได้เป็นที่อุปกรณ์ไฟฟ้าเสมอไป การที่เบรกเกอร์ตัดบ่อย ๆ อาจเป็นสัญญาณเตือนว่ามีปัญหาในระบบวงจรไฟฟ้า เช่น การใช้กระแสไฟเกิน (Overload), การลัดวงจร (Short Circuit) หรือกระแสไฟฟ้ารั่วลงดิน (Ground Fault) ซึ่งทั้งหมดนี้เป็นสาเหตุที่เบรกเกอร์ต้องตัดการทำงานเพื่อหยุดกระแสไฟโดยทันที
2. จะรู้ได้อย่างไรว่าปัญหาเบรกเกอร์ตัดเกิดจาก "การใช้ไฟเกิน" หรือ "ไฟฟ้าลัดวงจร"?
สามารถสังเกตจากลักษณะการตัดไฟของเบรกเกอร์ได้ โดยหากเป็นการใช้ไฟเกิน (Overload) เบรกเกอร์มักจะตัดหลังจากเปิดใช้งานอุปกรณ์ไฟฟ้าได้สักพัก เพราะมีการใช้กระแสไฟเกินกว่าที่เบรกเกอร์รองรับได้ แต่ถ้าเป็นไฟฟ้าลัดวงจร (Short Circuit) เบรกเกอร์จะตัดทันที ที่เปิดเครื่องหรืออุปกรณ์นั้น ๆ ซึ่งบ่งบอกได้ว่าเกิดการลัดวงจรในวงจรไฟฟ้าอย่างรุนแรง
3. เปลี่ยนเบรกเกอร์ให้มีขนาดใหญ่ขึ้นไม่ให้ไฟตัดบ่อย ๆ ได้หรือไม่?
จริง ๆ แล้ว หากเบรกเกอร์มีขนาดเล็ก ไม่เหมาะสมกับปริมาณการใช้งานไฟฟ้าที่ใช้ ควรที่จะเปลี่ยนไปใช้เบรกเกอร์ที่มีขนาดรองรับกับการใช้งาน แต่หากเป็นการใช้เบรกเกอร์ขนาดใหญ่โดยที่ไม่ได้ตรวจสอบว่าปริมาณกระแสไฟฟ้าไหลเกินขีดจำกัดหรือไม่ อาจก่อให้เกิดอันตรายจากความร้อนสะสมสูง และเกิดเป็นไฟไหม้ได้ในที่สุด
ด้วยเหตุนี้ ก่อนที่จะเปลี่ยนเบรกเกอร์ จึงควรทำการตรวจสอบระบบไฟฟ้าก่อนเสมอ เพื่อให้เลือกเบรกเกอร์ได้เหมาะสมกับแรงดันไฟฟ้า ปริมาณการใช้งาน และเป็นการหาสาเหตุของปัญหาในระบบไฟฟ้าที่ทำให้เบรกเกอร์ตัดบ่อยไปในตัว
4. ควรตรวจสอบและบำรุงรักษาเบรกเกอร์บ่อยแค่ไหน?
ควรตรวจสอบเบรกเกอร์อย่างสม่ำเสมอ ตามแผนการบำรุงรักษาเชิงป้องกัน (Preventive Maintenance) ของโรงงาน
5. มีสัญญาณอะไรบ้างที่บอกว่าต้องเปลี่ยนเบรกเกอร์แล้ว?
สัญญาณที่บ่งบอกว่าเบรกเกอร์อาจเสื่อมสภาพ และถึงเวลาต้องเปลี่ยนเบรกเกอร์ มีดังนี้
- เบรกเกอร์มีความร้อนสูงผิดปกติ
- มีรอยไหม้ หรือกลิ่นพลาสติกไหม้ที่ตัวเบรกเกอร์
- เบรกเกอร์ไม่ยอมตัดการทำงานแม้มีปัญหาที่เห็นได้ชัดเกิดขึ้น
- เบรกเกอร์ตัดบ่อยโดยไม่มีสาเหตุที่ชัดเจน และไม่ใช่ปัญหาที่เกิดจากการใช้ไฟเกินหรือลัดวงจร
