Case Study หากธุรกิจร้านอาหาร-โรงแรมเริ่มติดตั้ง EV Charger จะได้อะไรกลับมาบ้าง?

จุดเริ่มต้นในการติดตั้ง EV Charger คือ “อยากดึงลูกค้ากลุ่มใหม่ แต่ไม่รู้จะเริ่มตรงไหน”

เจ้าของธุรกิจร้านอาหารและโรงแรมแห่งนี้ มีทำเลตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวสำคัญของประเทศไทย นั่นหมายความว่ามีโอกาสที่ลูกค้าจะเดินทางเข้ามาใช้บริการเยอะ อาจไม่จำเป็นต้องทำการตลาดอะไรเพิ่มรายได้ก็เพียงพอ แต่ด้วยวิสัยทัศน์ของนักธุรกิจ เจ้าของธุรกิจเล็งเห็นถึงการเติบโตของจำนวนรถยนต์ไฟฟ้าบนท้องถนน และสังเกตว่าลูกค้าหลายรายที่เข้ามาใช้บริการเริ่มใช้รถยนตร์ไฟฟ้า EV แต่ด้วยความที่ไม่มีจุดชาร์จรถไฟฟ้าให้บริการ ลูกค้าจึงต้องไปชาร์จตามสถานีชาร์จรถไฟฟ้าแทน

“เราอยากดึงดูดลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ ที่ใช้รถ EV เข้ามาที่ร้านและโรงแรมของเราให้มากขึ้นครับ” เจ้าของธุรกิจเล่า “แต่ตอนแรกก็ไม่แน่ใจว่าจะเริ่มจากตรงไหนดี ทั้งเรื่องค่าใช้จ่าย การติดตั้ง หรือแม้แต่การเลือกว่าตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้าแบบไหนจะเหมาะกับธุรกิจของเรา”

จะเห็นได้ว่าเจ้าของธุรกิจมองเห็นช่องว่างที่ธุรกิจของตนเองยังไม่มี นั่นคือการให้บริการ EV Charger ภายในร้านอาหารและโรงแรมของตัวเอง จึงมีความคิดที่จะดึงดูดลูกค้าให้เข้ามาใช้บริการมากขึ้น โดยเจาะจงไปที่กลุ่มคนใช้รถ EV ที่มีอัตราการใช้งานเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ด้วยความตั้งใจที่จะมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้ลูกค้า และเพิ่มความสามารถในการแข่งขันในตลาดที่มีคู่แข่งเยอะมากขึ้น เจ้าของธุรกิจจึงตัดสินใจปรึกษากับ ณัฐภูมิ วิศวกรรม เพื่อสำรวจความเป็นไปได้ในการติดตั้ง EV Charger ในธุรกิจ

ศึกษาพฤติกรรมลูกค้า เพื่อวางแผนตัดสินใจก่อนเริ่มกระบวนการติดตั้ง

หลังจากพูดคุยและสำรวจพื้นที่ ณัฐภูมิ วิศวกรรม ได้เสนอโซลูชันที่เหมาะสมกับพฤติกรรมการใช้งานของลูกค้าที่มาใช้บริการร้านอาหารและเข้าพักโรงแรม ซึ่งส่วนใหญ่แล้วลูกค้าจะจอดรถเป็นระยะเวลานาน เฉลี่ย 1-3 ชั่วโมงสำหรับร้านอาหาร และจอดข้ามคืนสำหรับโรงแรม ทำให้การติดตั้ง Wall Charger หรือ ตู้ชาร์จรถยนต์ไฟฟ้า แบบ AC ที่มีกำลังไฟปานกลาง (7.4 kW และ 11 kW) เป็นทางเลือกที่คุ้มค่าและตอบโจทย์ที่สุด โดยเราเสนอรูปแบบและประเภทของ EV Charger ไปดังนี้

• ร้านอาหาร : เลือกติดตั้งEV Charger แบบ AC ขนาด 7.4 kW จำนวน 2 จุด เพื่อรองรับลูกค้าที่แวะทานอาหารในช่วงกลางวันและช่วงเย็น
• โรงแรม : เลือกติดตั้งEV Charger แบบ AC ขนาด 11 kW จำนวน 4 จุด ในพื้นที่จอดรถของโรงแรม เพื่อให้แขกสามารถเสียบชาร์จได้ตลอดการเข้าพัก

หลังจากแนะนำข้อเสนอและทำการตกลงติดตั้งเรียบร้อยแล้ว ทีมวิศวกรของ ณัฐภูมิ วิศวกรรม ก็ได้ดำเนินการตั้งแต่การสำรวจระบบไฟฟ้าเดิมของอาคาร เผื่อว่าจะต้องมีการออกแบบหรือติดตั้งระบบไฟฟ้าเพิ่มเติมหากจำเป็น เพื่อรองรับโหลดที่เพิ่มขึ้น เมื่อสำรวจเรียบร้อยแล้ว จากนั้นจึงวางแผนการเดินสายไฟให้เป็นระเบียบ ไม่ให้บดบังทัศนียภาพของร้านและโรงแรม และเริ่มทำการติดตั้ง EV Charger โดยทีมช่างมืออาชีพที่คำนึงถึงความปลอดภัยเป็นอันดับแรก

“ผมประทับใจในความเป็นมืออาชีพของทีมวิศวกรมากครับ เขาให้คำแนะนำละเอียดทุกขั้นตอน ตั้งแต่การเลือกชนิดของที่ชาร์จรถไฟฟ้า จนถึงการวางแผนงานติดตั้งที่ทำให้ไม่รบกวนการดำเนินธุรกิจของเราเลย” เจ้าของธุรกิจกล่าวเสริม

อ่านบทความน่าสนใจ :วิธีเลือก EV Charger ให้เหมาะกับสถานีชาร์จรถไฟฟ้าและที่อยู่อาศัย

ผลลัพธ์ที่เกินคาด เพราะไม่ใช่แค่ดึงลูกค้า แต่ยังเพิ่มรายได้!

หลังจากติดตั้ง EV Charger ได้ไม่นาน เจ้าของธุรกิจก็ได้เห็นผลลัพธ์เชิงบวกที่สร้างความได้เปรียบทางธุรกิจชัดเจนอย่างมาก ทั้งเรื่องจำนวนลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการเพิ่มมากขึ้น และรายได้ก็เพิ่มขึ้นตามมา แม้จะแค่ลงทุนติดตั้ง Wall Charger เพิ่มเท่านั้น

1. จำนวนลูกค้าเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด

เจ้าของธุรกิจสังเกตว่าเริ่มมีกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เดินทางเข้ามาใช้บริการเพิ่มขึ้นจริง ไม่ว่าจะเป็น

ลูกค้ากลุ่ม EV : เริ่มมีลูกค้ากลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าเดินทางมาใช้บริการที่ร้านอาหารและโรงแรมมากขึ้น หลายคนให้เหตุผลว่าเลือกมาที่นี่เพราะมีจุดชาร์จรถไฟฟ้า ทำให้ได้รับความสะดวกสบาย ไม่ต้องไปเสียเวลาชาร์จที่อื่นข้างนอก

ลูกค้าเก่า : ลูกค้าประจำโดยเฉพาะลูกค้าร้านอาหารหลายคนที่เปลี่ยนมาใช้รถ EV ก็รู้สึกดีใจที่มีสถานีชาร์จรถไฟฟ้ามารองรับ ทำให้ลูกค้าเลือกที่จะใช้บริการที่ร้านอย่างต่อเนื่อง

การโปรโมตแบบปากต่อปาก : ผู้ใช้รถ EV มักบอกต่อกันในกลุ่มผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้า ทั้งแบบปากต่อปาก หรือโพสต์ตามกลุ่มบนแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย ทำให้ธุรกิจเป็นที่รู้จักในวงกว้างขึ้น

2. เพิ่มยอดใช้จ่ายของลูกค้า

เมื่อลูกค้ามีโอกาสชาร์จรถที่ร้านอาหารหรือโรงแรม พวกเขามักจะใช้เวลาในสถานที่นานขึ้น สั่งอาหารเพิ่ม หรือใช้บริการอื่น ๆ ของโรงแรมมากขึ้นโดยไม่รู้ตัว เพราะไม่ต้องกังวลเรื่องแบตเตอรี่รถยนต์

“บางทีลูกค้าที่มาทานอาหาร ก็มาเสียบชาร์จทิ้งไว้ แล้วก็เดินเที่ยวเล่นในบริเวณใกล้เคียง หรือนั่งทำงานต่อที่คาเฟ่ของเรา ทำให้มีเวลาใช้จ่ายกับเรามากขึ้นครับ” เจ้าของธุรกิจเล่า

3. สร้างภาพลักษณ์ที่ทันสมัย เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม

การมีที่ชาร์จรถไฟฟ้าสามารถช่วยเสริมภาพลักษณ์ของธุรกิจให้ดูทันสมัย ใส่ใจเทรนด์พลังงานสะอาด และรับผิดชอบต่อสังคม ซึ่งเป็นจุดดึงดูดใจสำหรับลูกค้ากลุ่มใหม่ ๆ โดยเฉพาะกลุ่มผู้บริโภคที่มีกำลังซื้อสูง

“เราสังเกตว่าลูกค้าหลายคนให้ความสนใจเรื่องสิ่งแวดล้อม Sustainable อย่างเวลาเขาเข้ามารับประทานอาหาร ก็มีให้คำแนะนำเรื่องแพ็คเกจห่ออาหารกรณีสั่งกลับบ้าน ให้เป็นแบบที่ย่อยสลายง่ายเราเลยคิดว่าการที่เราปรับปรุงตามคำแนะนำของลูกค้า และแสดงให้เห็นถึงแนวคิดส่งเสริมพลังงานสะอาดเข้าไปด้วย ลูกค้าน่าจะพอใจในส่วนนี้และเอาไปบอกต่อกันครับ” เจ้าของธุรกิจอธิบาย

4. เพิ่มช่องทางรายได้ในอนาคต

แม้ในช่วงแรกจะเน้นการดึงดูดลูกค้า แต่ในอนาคตธุรกิจสามารถพิจารณาการเก็บค่าบริการชาร์จไฟฟ้า ซึ่งจะกลายเป็นอีกหนึ่งช่องทางรายได้ที่น่าสนใจ

“การลงทุนใน EV Charger เป็นการตัดสินใจที่ถูกต้องจริง ๆ ครับ ไม่ใช่แค่ทำให้ลูกค้าใหม่ ๆ เข้ามาใช้บริการมากขึ้น แต่ยังช่วยเพิ่มยอดขายและสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับธุรกิจของเราด้วย ตอนนี้เรากำลังพิจารณาที่จะติดตั้งโซลาร์เซลล์ เพิ่มเติม เพื่อลดค่าไฟฟ้าจากการชาร์จรถ และใช้เป็นแหล่งพลังงานในโรงแรม เพื่อความยั่งยืนระยะยาวอีกด้วยครับ” เจ้าของธุรกิจกล่าวทิ้งท้าย

อ่านบทความน่าสนใจ :สถานีชาร์จรถไฟฟ้า ต้องลงทุนเท่าไหร่ และมีเรื่องต้องรู้อะไรบ้าง?

ณัฐภูมิ วิศวกรรม พร้อมเป็นพันธมิตรของคุณในการสร้างสังคมพลังงานสะอาด

เรื่องราวความสำเร็จนี้เป็นเพียงหนึ่งในหลายตัวอย่างที่แสดงให้เห็นว่า การติดตั้ง EV Charger ไม่ได้เป็นแค่ค่าใช้จ่าย แต่เป็นการลงทุนที่สร้างผลตอบแทนที่คุ้มค่า และช่วยยกระดับธุรกิจของคุณให้ก้าวทันโลกยุคใหม่

ณัฐภูมิ วิศวกรรม มีความเชี่ยวชาญในการออกแบบ ติดตั้ง บำรุงรักษาเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger) สำหรับธุรกิจทุกขนาด ไม่ว่าคุณจะเป็นเจ้าของร้านอาหาร โรงแรม โรงงาน หรือหน่วยงานราชการ เราพร้อมให้คำปรึกษาและบริการครบวงจร หากคุณกำลังมองหาโอกาสที่จะยกระดับธุรกิจของคุณด้วย EV Charger อย่าลังเลที่จะติดต่อเรา ณัฐภูมิ วิศวกรรม ยินดีให้คำปรึกษาและนำเสนอโซลูชันที่เหมาะสมที่สุดสำหรับคุณ

ปรึกษาหรือสอบถามข้อมูลเพิ่มเติมที่ติดต่อเรา

หรือโทร 098-291-4911⁣ และแอดไลน์@npeng