รวมเหตุผลสำคัญ ทำไมโรงงานและธุรกิจควรติดตั้งโซลาร์เซลล์?

ในยุคที่ค่าไฟฟ้าและต้นทุนพลังงานมีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง การมองหาวิธีลดค่าใช้จ่ายและเพิ่มประสิทธิภาพในโรงงานอุตสาหกรรมจึงเป็นสิ่งสำคัญที่ผู้ประกอบการควรให้ความสำคัญ หนึ่งในแนวทางที่สามารถตอบโจทย์นี้ได้คือการ ติดตั้งโซล่าเซลล์ ซึ่งไม่เพียงแต่ช่วยประหยัดค่าไฟฟ้า แต่ยังเป็นการสนับสนุนการใช้พลังงานสะอาดที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมอีกด้วย บทความนี้จะพาคุณไปทำความรู้จักกับประโยชน์และแนวทางการลงทุนในการติดตั้งโซล่าเซลล์สำหรับโรงงาน รวมถึงความยั่งยืนที่การใช้พลังงานจากโซล่าเซลล์จะสามารถมอบให้ได้
รวมเหตุผลสำคัญที่โรงงานและธุรกิจควรติดตั้งโซลาร์เซลล์เพื่อลดค่าไฟและประหยัดพลังงาน ในบทความนี้จะครอบคลุมถึงข้อดีของการใช้พลังงานแสงอาทิตย์และระบบไฟฟ้าแรงสูง รวมถึงการปรับใช้เทคโนโลยีเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและความยั่งยืนทางพลังงาน

1. ประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้าในโรงงานด้วยโซล่าเซลล์

ภาพโรงงานอุตสาหกรรม ติดตั้งแผงโซลลาร์เซลล์ และทำไมโรงงานและธุรกิจควรติดตั้งโซล่าเซลล์

การติดตั้งโซล่าเซลล์ในโรงงานมีข้อดีหลายประการ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในเรื่องการประหยัดพลังงานและลดค่าไฟฟ้า เนื่องจากแผงโซล่าเซลล์สามารถผลิตไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ ซึ่งเป็นแหล่งพลังงานที่ไม่มีค่าใช้จ่ายเมื่อเริ่มต้นการใช้งาน

โซล่าเซลล์ช่วยลดค่าใช้จ่ายในระยะยาวอย่างไร?

  • การติดตั้งโซล่าเซลล์สามารถลดค่าใช้จ่ายค่าไฟฟ้าได้ทันที เนื่องจากพลังงานที่ได้จากโซล่าเซลล์จะถูกนำไปใช้แทนการซื้อไฟฟ้าจากภายนอก
  • โรงงานที่ใช้พลังงานไฟฟ้าปริมาณมากจะเห็นผลลัพธ์ในด้านการลดต้นทุนได้ชัดเจนมากขึ้น เช่น โรงงานผลิตที่มีเครื่องจักรทำงานต่อเนื่องตลอดวัน

 

ตัวอย่างการคำนวณผลประหยัดค่าไฟฟ้าด้วยโซล่าเซลล์

หากโรงงานมีการใช้ไฟฟ้าอยู่ที่ 500,000 บาทต่อเดือน การติดตั้งโซล่าเซลล์ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ 50% ของความต้องการ จะช่วยประหยัดค่าใช้จ่ายได้ถึง 250,000 บาทต่อเดือน หรือ 3,000,000 บาทต่อปี

2.เทคนิคการลงทุนโซล่าเซลล์ในโรงงานให้คุ้มค่าและได้ผลตอบแทนสูง

การลงทุนโซล่าเซลล์ในโรงงานเป็นการลงทุนที่ไม่เพียงแค่คุ้มค่าในระยะยาว แต่ยังให้ผลตอบแทนที่สูงด้วย โดยเฉพาะในยุคที่ราคาพลังงานมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง การติดตั้งโซล่าเซลล์จึงเป็นการลงทุนที่ช่วยลดความเสี่ยงในด้านต้นทุนพลังงาน

 

ปัจจัยที่ควรพิจารณาก่อนการลงทุน

ขนาดของระบบโซล่าเซลล์

ขนาดของระบบควรสอดคล้องกับการใช้พลังงานของโรงงาน การคำนวณขนาดที่เหมาะสมจะช่วยให้การลงทุนมีความคุ้มค่ามากขึ้น

ขนาดของระบบโซล่าเซลล์สำหรับโรงงาน

กรณีตัวอย่าง: โรงงานผลิตอาหารทะเลแช่แข็งมีการใช้พลังงานไฟฟ้าสูง เนื่องจากมีการใช้เครื่องจักรสำหรับแช่แข็งและระบบทำความเย็นที่ต้องทำงานตลอด 24 ชั่วโมง 

ในการคำนวณขนาดระบบโซล่าเซลล์ที่เหมาะสม สมมุติว่าโรงงานนี้ใช้พลังงานไฟฟ้าเดือนละ 500,000 กิโลวัตต์-ชั่วโมง (kWh) หากต้องการให้ระบบโซล่าเซลล์ผลิตไฟฟ้าให้ได้ประมาณ 50% ของความต้องการพลังงาน โรงงานนี้จะต้องติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ประมาณ 250,000 kWh ต่อเดือน ซึ่งจะต้องใช้แผงโซล่าเซลล์ขนาดประมาณ 2 เมกะวัตต์ (MW) ที่จะสามารถช่วยลดค่าใช้จ่ายได้อย่างมากในระยะยาว

ต้นทุนการติดตั้ง

แม้การติดตั้งโซล่าเซลล์จะมีต้นทุนเริ่มต้นที่สูง แต่ผลประหยัดในระยะยาวสามารถคืนทุนได้ภายใน 5-7 ปี ขึ้นอยู่กับขนาดและการใช้งาน

ต้นทุนการติดตั้งโซลาร์เซลล์สำหรับโรงงาน

กรณีตัวอย่าง: สมมุติว่าต้นทุนการติดตั้งระบบโซล่าเซลล์ขนาด 2 เมกะวัตต์ (MW) สำหรับโรงงานผลิตอาหารทะเลแช่แข็งอยู่ที่ 60 ล้านบาท การติดตั้งนี้สามารถช่วยประหยัดค่าไฟฟ้าได้เดือนละ 1.25 ล้านบาท (จากการผลิตไฟฟ้าได้ 250,000 kWh และคิดค่าไฟฟ้าที่ 5 บาทต่อ kWh) โรงงานนี้จะสามารถคืนทุนได้ภายในเวลา 4 ปี (60 ล้านบาท ÷ 1.25 ล้านบาทต่อเดือน × 12 เดือน) หลังจากนั้นจะเป็นการประหยัดค่าไฟฟ้าเต็มที่ ซึ่งเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าในระยะยาว

ประโยชน์ของการลงทุนในโซล่าเซลล์

  • ลดความเสี่ยงจากการขึ้นราคาของไฟฟ้า
  • ให้ผลตอบแทนจากการลดค่าใช้จ่ายในการซื้อไฟฟ้าในระยะยาว

     

3. โซล่าเซลล์คือทางเลือกที่ยั่งยืนสำหรับโรงงานในยุคพลังงานสะอาด

ในปัจจุบันการหันมาใช้พลังงานสะอาดเป็นสิ่งที่ทุกโรงงานควรพิจารณา โซล่าเซลล์ถือเป็นทางเลือกที่ยั่งยืน ที่ไม่เพียงช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม แต่ยังช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรอีกด้วย

ทำไมโซล่าเซลล์ถึงเป็นพลังงานสะอาด?

  • พลังงานจากแสงอาทิตย์ไม่มีมลพิษ ไม่ก่อให้เกิดก๊าซเรือนกระจก และสามารถใช้ได้อย่างต่อเนื่องโดยไม่หมดไป
  • โซล่าเซลล์ไม่ก่อให้เกิดเสียงรบกวน และสามารถติดตั้งได้ในพื้นที่ที่ไม่มีการใช้ประโยชน์

การใช้โซล่าเซลล์กับความยั่งยืนขององค์กร

การใช้โซล่าเซลล์ ในโรงงานไม่เพียงแต่ช่วยลดค่าใช้จ่ายด้านพลังงาน แต่ยังมีบทบาทสำคัญในการส่งเสริมความยั่งยืนและการปกป้องสิ่งแวดล้อม ซึ่งเป็นสิ่งที่องค์กรในยุคปัจจุบันให้ความสำคัญมากขึ้นเรื่อยๆ

ลดการปล่อยคาร์บอน

การใช้พลังงานจากแสงอาทิตย์ผ่านโซล่าเซลล์เป็นการลดการพึ่งพาไฟฟ้าที่ผลิตจากเชื้อเพลิงฟอสซิล เช่น ถ่านหิน หรือน้ำมัน ซึ่งกระบวนการผลิตไฟฟ้าเหล่านี้ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ (CO2) ออกสู่บรรยากาศ ทำให้เกิดภาวะโลกร้อนและการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ การเปลี่ยนมาใช้โซล่าเซลล์สามารถลดการปล่อย CO2 ได้อย่างมีนัยสำคัญ

ตัวอย่าง: หากโรงงานผลิตอาหารทะเลแช่แข็งติดตั้งโซล่าเซลล์ขนาด 2 MW ที่สามารถผลิตไฟฟ้าได้ปีละ 3,000,000 kWh จะสามารถลดการปล่อย CO2 ได้ประมาณ 1,500 ตันต่อปี (คิดจากค่าเฉลี่ยการปล่อย CO2 ของการผลิตไฟฟ้าจากถ่านหินที่ประมาณ 0.5 กิโลกรัมต่อ kWh)

บรรลุเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อมและความยั่งยืน

องค์กรที่มุ่งเน้นการสร้างความยั่งยืนมักจะมีเป้าหมายด้านสิ่งแวดล้อม เช่น การลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจก การใช้ทรัพยากรธรรมชาติอย่างคุ้มค่า และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม การติดตั้งโซล่าเซลล์สามารถช่วยให้องค์กรบรรลุเป้าหมายเหล่านี้ได้

ตัวอย่าง: โรงงานผลิตและจัดเตรียมวัตถุดิบสำหรับร้านอาหารที่เลือกใช้โซล่าเซลล์ สามารถนำข้อมูลการลดการปล่อย CO2 มานำเสนอในรายงานความยั่งยืนขององค์กร หรือใช้เป็นจุดขายในการเจรจากับลูกค้าที่ให้ความสำคัญกับสิ่งแวดล้อม ช่วยสร้างภาพลักษณ์ที่ดีและความไว้วางใจจากลูกค้า

การติดตั้งโซล่าเซลล์ในโรงงาน ไม่เพียงแต่เป็นวิธีการที่ช่วยลดต้นทุนพลังงานและเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต แต่ยังเป็นการลงทุนที่คุ้มค่าและยั่งยืนสำหรับอนาคต ด้วยการประหยัดค่าไฟฟ้าในระยะยาวโซล่าเซลล์จึงเป็นทางเลือกที่โรงงานในยุคปัจจุบันไม่ควรมองข้าม ยิ่งไปกว่านั้นการหันมาใช้โซล่าเซลล์ยังเป็นการสร้างภาพลักษณ์ที่ดีให้กับองค์กรในการเป็นผู้นำด้านพลังงานสะอาดอีกด้วย

Share:
Facebook
Twitter
X
Email
Picture of Nutthaphume Engineering
Nutthaphume Engineering

ให้บริการอย่างครบวงจร ให้คำปรึกษา ออกแบบ
ติดตั้ง ตรวจสอบ และบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแรงสูง/แรงต่ำ ระบบโซลาร์เซลล์ ระบบเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger)

เลือกอ่าน

Nutthaphume Engineering ให้บริการอย่างครบวงจร

ให้คำปรึกษา ออกแบบ ติดตั้ง ตรวจสอบ และบำรุงรักษาระบบไฟฟ้าแรงสูง/แรงต่ำ ระบบโซลาร์เซลล์ ระบบเครื่องชาร์จรถไฟฟ้า (EV Charger)